16.6.59

OS - WAITING ROOM [KAIHUN EXO]





#affkaihun

os อิงวง

ชั่ววูบ


MUSIC BANK STUDIO RECORD


EXO'S WAITING ROOM


FLOOR 3 rd


"แต่งหน้ากันเสร็จหรือยัง"



พี่ยงมินเอ่ยถามพร้อมกับการชูโทรศัพท์ที่เปิดเพลง Heaven ที่พี่ชานยอล จนเจ้าของเพลงถึงกับร้องโวยวายทันทีเพราะความอาย ทุกคนหันไปมองตามก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะจนลืมคำถามทีเล่นทีจริงของเมเนเจอร์ เล่นเอาลีดเดอร์ของวงถึงกับกุมขมับให้กับเสียงโวยวายแล้วกราดสายตาสำรวจสมาชิกรายคนแทน



"เสร็จแล้วครับ จะให้พวกผมไปอัดเลยเหรอ บางคนยังไม่ได้แต่งตัวเลยนะ"



คนตัวขาวหันมองตามพี่จุนมยอนที่ลุกขึ้นรับหน้าด้วยคำว่าลีดเดอร์ที่แบกอยู่บนบ่า โคดี้นูนารีบลากใบหน้าเขากลับมาให้ตั้งตรงทันที พร้อมกับการบ่นว่ากรีดอายไลเนอร์เบี้ยวเพราะเขาหันไป


โอเซฮุนกลอกตาไปมาเมื่อเห็นแล้วว่าคนที่ยังไม่ได้แต่งตัวน่ะคือใคร คนนึงก็พี่แบคฮยอน น่ารำคาญจริงๆ เอาแต่นั่งตบโต๊ะเป็นจังหวะเสียงดังแล้วโวยวายเป็นเด็ก อีกคนก็พี่ซิ่วหมิน ดีนะที่พี่ซิ่วหมินมีเหตุผลหน่อย ตรงที่โคดี้แก้เสื้อให้อยู่ อีกคนนึงคือพี่อี้ชิง แต่อันนี้น่าจะเรียกว่าเเต่งยังไม่เสร็จดีกว่า เพราะโคดี้กำลังจัดเสื้อผ้าให้


และอีกหนึ่งคน...คิมจงอิน


หมอนั่นยังนอนกระดิกเท้าอยู่บนโซฟาด้านหลังเขา ได้แต่คิ้วกระตุกเมื่อเห็นว่าต้นเหตุที่ทำให้โดนพี่ยงมินบ่นอันดับแรกๆก็คือคนผิวแทน กับอีแค่เหตุผลที่ว่าหากางเกงไม่เจอ ก็เลยนอนเล่นรอบนโซฟา แล้วถามหน่อยว่าใครมันจะเอาไป กางเกงนะไม่ใช่เศษเงินที่จะพับเก็บเข้ากระเป๋าตังค์แล้วถือออกไปได้ คิมจงอินประสาทหรือเปล่า


"พี่หาไม่เจออะจงอิน แน่ใจเหรอว่าไม่ได้ถือออกไปวางไว้นอกห้องแต่งตัว"


"ตั้งแต่มาผมยังไม่ได้เดินออกไปเลยนะครับ" คิมจงอินพูด ละใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์จนดูดุดันออกจากเกมในมือถือแล้วขมวดคิ้วมองหน้าโคดี้นูนาแทน


"อ้าว งั้นมีใครใส่ผิดไปหรือเปล่า?"


โอเซฮุนกลอกตามอง เลิกสนใจตรงนั้นแล้วหันมามองตัวเองในกระจกแทน วันนี้แสบตาเป็นบ้าเลย โคดี้นูนาเขียนตาด้วยอะไรสีแดงๆไม่รู้ แถมยังกรีดขอบตาซะหนา บนหน้าก็มีรอยฟกช้ำจากการตกแต่ง คัมแบ็คคราวนี้เปลืองเครื่องสำอางค์กว่าครั้งก่อนๆชะมัด ถึงแม้บางทีจะไม่ค่อยเข้าใจก็เถอะ ว่าไอ้ความหมายเพลงกับคอสตูมแล้วก็เอ็มวี มันเชื่อมโยงกันตรงไหน


"จะมีใครใส่ผิดล่ะครับ ใครจะไปใส่ไซส์จงอินได้" พี่จงแดเอ่ยพูด


"ตอนนั้นแบคฮยอนยังยัดกางเกงเซฮุนเข้าไปในคอนได้เลยนะ"


"ย่าห์ๆ ชานยอล นั่งเฉยๆก็ไม่มีใครว่าอะไรนะ" พี่แบคฮยอนโวยวาย ก่อนจะยกกองเสื้อผ้าบนตักขึ้นมาชู "ของผมอยู่นี่หมดแล้ว ผมออกมากินขนมก่อนอะ เดี๋ยวค่อยเข้าไปแต่งตัว...หิว"


"งั้นใครจะใส่ไป ชานยอลหรือเปล่า?" พี่โคดี้กวาดมองไปรอบตัว


"ผมใส่ชุดจงอินได้ที่ไหนกัน ยัดเข้าไปก็ขาดสิครับ"


"มีใครใส่กางเกงไซส์เดียวกับจงอินบ้าง?"


เซฮุนเริ่มขมวดคิ้ว โคดี้นูนาที่แต่งหน้าให้เขาอยู่ผละออกไปเมื่อทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ กวาดตามองตัวเองในกระจกเช็กความเรียบร้อยว่าดุพอแล้วก็หมุนเก้าอี้กลับไปเผชิญปัญหาที่ทั้งห้องแต่งตัวกำลังคิดไม่ตก


คนผิวแทนมองมายังเขา ลากสายตาลงมาที่เป้ากางเกงจนต้องหรี่ตามองกลับไป เปลี่ยนท่าทางที่เคยแหกขากว้างเป็นไขว่ห้างแบบเนียนๆ


"มีสิ เซฮุนไม่ใช่เหรอ?" พี่มินซอกเสนอ "เห็นสลับเสื้อผ้าใส่กับจงอินออกจะบ่อยไป"


"ผมไม่ได้ใส่ผิดนะ"



แน่นอนว่าเขาไม่มีทางจำกางเกงตัวเองผิดแน่นอน อีกอย่างชื่อเขาก็เด่นหราอยู่บนป้ายยี่ห้อที่แปะไว้ด้านในด้วย จะใส่ผิดได้ยังไงกัน


"แน่เหรอเซฮุน ไปเช็คก่อนไหม มันมีอีกตัวที่ไม่มีชื่อเขียนเหลืออยู่ด้วยนะ"


"อะไรกัน"


คนตัวขาวโวยวายแล้วผุดลุกขึ้นยืน หันหลังให้กับโคดี้นูนา เลิกเสื้อขึ้นจนเห็นหน้าท้องขาว ก่อนดึงขอบกางเกงลงเพื่อยืนยันว่าบนป้ายน่ะมันมีชื่อเขาจริงๆ แต่มือก็ถูกปัดจนหลุดออกจากทั้งเสื้อทั้งกางเกงทั้งที่โคดี้นูนายังไม่ทันเดินมาเช็คเลยด้วยซ้ำ


เซฮุนเงยหน้าขึ้น ตวัดตาคมมองไปยังตัวปัญหาที่เดินมายืนประจันหน้าเขาตอนไหนไม่รู้ คิมจงอินขมวดคิ้วเล็กน้อย จับไหล่เขาผลักให้หมุนตัวกลับไปอีกทาง พร้อมกับส่งเสียงทุ้มกลบความโวยวายจากการเถียงกันเป็นเด็กๆของเมมเบอร์


"เดี๋ยวผมไปเช็คเองครับ"


เขาถูกดันมาจนถึงห้องแต่งตัว จะเรียกว่าห้องก็ไม่ถูก เพราะมันแค่ใช้ราวเสื้อผ้ากั้นเป็นโซนๆเอาไว้ เซฮุนผละออกจากแรงดัน รีบเดินไปยังราวเสื้อของเขาแล้วชี้ให้คิมจงอินเห็นกับตาว่าเขาไม่ได้หยิบของใครไปใส่มั่วซั่ว


แต่คนผิวแทนไม่สนใจ เพราะหมอนั่นดันดึงเขาเขาไปในห้องลองเสื้อ รูดม่านหนาสีเทาปิดดังครืดแล้วหันมากระชากขอบกางเกงทางด้านหลังเขาเข้าหาตัว


เซฮุนมองการกระทำอีกฝ่ายในกระจกอย่างตื่นตระหนก ยิ่งตอนที่คิมจงอินเอื้อมมือมาข้างหน้าเพื่อปลดกระดุมและรูดซิปกางเกงเขาออกหัวใจก็พลันเต้นตุบตับ ดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนอีกคนอย่างบ้าคลั่งเพื่อปลดพันธนาการ


"จะบ้าหรือไง! ทำอะไรเนี่ย"


ป้าบ!


"จะมาฟาดก้นฉันทำไม!"


"เมื่อเช้าเดินทำไมไม่รอ"


"ก็ชักช้า อืดอาด น่ารำคาญ"


"พูดแบบนี้อยากโดนอย่างอื่นฟาดก้นหรือไง?"


"อะไร พูดให้มันดีๆ" โอเซฮุนหน้าร้อนฉ่า รู้ความหมายของประโยคกำกวมเมื่อครู่เป็นอย่างดี "แล้วนี่จะมารูดซิปกางเกงชาวบ้านเขาทำไม"


"นี่อะไรล่ะ? ชื่อฉันเขียนอยู่บนนี้ ยังจะเถียงว่าไม่ได้ใส่ผิดอีกเหรอ"


"ว่าไงนะ?"


เซฮุนหมุนหน้ากลับไป แอ่นหน้าอกเพื่อหลุบตาต่ำมองไปด้านหลัง กางเกงของเขาถูกคิมจงอินถลกลงไปมากกว่าปกตินิดหน่อย จนเผยหมึกสีน้ำเงินเข้มที่เขียนเอาไว้บนเนื้อผ้าว่า JONGIN คนตัวขาวถึงกับขมวดคิ้ว ก็บนป้ายมันเขียนด้วยหมึกดำไว้ว่า SEHUN ชัดเจนแล้วนี่ แล้วทำไมกลายเป็นมีชื่อจงอินอยู่บนนั้นล่ะ


"จำไม่ได้หรือไง กางเกงตัวนี้ก็ตัวเดียวกับตอน Overdose ที่เราใส่สลับกันแล้วโคดี้เข้าใจผิด เอาไปเขียนเป็นชื่อนาย"


"ฮะ?"


ใบหน้าขาวหันกลับมามองกระจก รีบตะครุบซิปกางเกงที่เปิดอ้าเพราะเเรงดึงไปด้านหลังให้หุบเข้ามาหากัน คิมจงอินเงยหน้าขึ้นมองเขาผ่านไหล่ ก่อนถลกกางเกงเขาลงอีกรอบ เซฮุนเบิกตากว้าง ก็วันนี้เขาไม่ได้ใส่บ็อกเซอร์ ไม่ได้หยิบมาด้วย มันก็เลยเห็นไปถึงไหนต่อไหน


"ถอดออกมา"


"รู้แล้ว เดี๋ยวถอดให้ ออกไปหยิบกางเกงฉันมาสิ"


"ก็ถอดตัวนี้ออกมาก่อนมันจะเป็นอะไร"


"แล้วทำไมฉันจะต้องถอดทั้งที่นายก็ยืนตำหน้าตำหลังอยู่แบบนี้?"


เซฮุนจับขอบกางเกงแน่น แต่คิมจงอินก็ไม่เคยยอมแพ้ หมอนั่นใช้แรงมหาศาลที่มีกระชากขอบกางเกงเขาลงไปจนถึงขาอ่อนเผยสะโพกกลมที่ซ่อนตัวอยู่ในชั้นในสีขาว มือบางรีบปิดบังความน่าอายทั้งหน้าทั้งหลังทันที ได้ยินเสียงคิมจงอินหัวเราร่วนก็อดค้อนตากลับไปมองไม่ไป


สะดุ้งอีกครั้งเมื่อมือหนาฟาดลงมาบนก้นจนเขารับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ริมฝีปากบางถูกกัดจนแน่นเมื่อคิมจงอินเปลี่ยนจากการฟาดมาเป็นบีบขยำแทน


"เดี๋ยวไปเอามาให้"


"เร็วๆ"


เซฮุนหน้าร้อนฉ่า ดึงกางเกงที่คาอยู่ลงไปวางบนพื้น มองตัวเองในกระจกแล้วก็ถอนหายใจ เรียวขาของเขาเต็มไปด้วยรอยแดงจาง ถ้าถามว่าฝีมือใคร ตอบตรงๆเลยก็ไอ้คนที่ฟาดก้นเขาเมื่อกี้นั่นแหละ บอกแล้วแท้ๆว่าอย่าทำรอย เวลาโคดี้แต่งตัวให้มันเห็นชัด แล้วเขาก็จะโดนแซว ซึ่งคิมจงอินก็ไม่เคยคิดจะฟัง


"อะ"


เซฮุนรับกางเกงมาจากมือหนา จงอินหันไปรูดม่านอีกครั้งเมื่อเห็นว่าพวกพี่ชานยอลเดินมาทางนี้ เซฮุนจึงหันไปมองอย่างไม่เข้าใจ เขาจะแต่งตัว แล้วทำไมคิมจงอินต้องมายืนซื่อบื้ออยู่


"ออกไปสิ"


"ช่วยใส่"


"ไม่ต้อง ออกไปเลย"


"ไม่ให้ช่วยใส่่?"


"ใช่ ฉันมีมือ-"


"งั้นช่วยถอดแล้วกัน"



"คิมจงอิน!"



คนตัวขาวถอยหลังหนีมือปลาหมึกที่พยายามจะยื่นเข้ามาถึงตัวเขา จนสุดท้ายข้อพับก็ชนเข้ากับเก้าอี้ไม้ตัวยาวในห้องเเต่งตัวแคบๆ และมันแสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีทางหนี


"ย่าห์...คนเยอะแยะยังจะเล่นอะไรแผลงๆอีก"


"ไม่ได้จะเล่น"


โอเซฮุนหมุนตัวกลับมาอีกทางเมื่อจงอินก้าวมาประชดตัว แต่เขาก็คิดผิด ในเมื่อภาพในกระจกบานใหญ่ตอนนี้มันฉายชัดราวกับความละเอียดหนึ่งพันแปดสิบพี 


ริมฝีปากของเขาสั่นเทาเพราะคิมจงอินไล้มือไปตามสะโพก ลงมาที่หน้าขา ก่อนวกกลับขึ้นไปสอดเข้าในชั้นของเขา เกี่ยวช่วงขอบลงเล็กน้อยเผยกระดูกสะโพก ก่อนมือทั้งสองข้างจะผลุบหายเข้าไปกอบกุมเนื้อสะโพกของเขาพร้อมบีบเค้นอย่างรุนแรง


"จะ..จงอิน"


เซฮุนกำกางเกงในมือแน่น เสียงเมมเบอร์คนอื่นดังไปทั่วเหมือนกับทุกครั้ง แต่มันไม่ดีเลยสักนิด เพราะนั่นหมายความว่าทุกคนอยู่ในระยะหลังผ้าม่านไม่เกิดสิบก้าว


"เมื่อคืนหนีกลับห้องทำไม?"


"ก็แล้วใครจะอยู่ให้โดนรอบที่สาม" เซฮุนสะบัดหน้า เชิดขึ้นอย่างหยิ่งผยอง แต่ตัวหน้าก็ชาวาบเมื่อจงอินรูดรั้งกางเกงในเขาลงไปจนเผยสิ่งที่กำลังตื่นตัวอยู่ภายใน เซฮุนหลับตาลง เอามือกุมมันเอาไว้เพราะภาพในกระจกมันน่าอายเสียจริง


"ฉันถึงมาทวงรอบที่สามไง"


"จะบ้าหรือไง! เอาไว้ทวงที่หอก็ได้!"


"เสียงดังนี่...อยากให้คนอื่นรู้เหรอ"


โอเซฮุนบิดใบหน้าเหยเกในตอนที่มือหนาลูบไล้ไปทั่ว นิ้วเรียวกรีดช่องทางด้านหลังเขาเล่น เกี่ยวเข้าไปเล็กน้อยจนต้องสูดปากคราง คิมจงอินนี่มันบ้าจริงๆ


"รู้สึกขนาดนี้เเล้วยังจะมาห้ามอีก"


เซฮุนอยากจะบ้าตายเมื่อตัวเองเริ่มโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อรับแรงสอดใส่จากก้านนิ้วเรียว มือสองข้างปล่อยจากสิ่งแข็งขืนของตัวเองแล้วกำแน่นทาบทับกระจกเอาไว้หนึ่งข้าง ส่วนอีกข้างก็ต้องส่งมาปิดแนบริมฝีป่กให้แน่น เพื่อไม่ให้ส่งเสียงน่าเกลียดออกไป ถ้าหากเขาร้องดังเกินแม้แต่แอะเดียว เชื่อเลยว่าคนข้างนอกจะรูดม่านเข้ามาเห็นการกระทำบ้าๆนี้แน่


"อื้อ"


แต่เชื่อเถอะว่าเขาห้ามตัวเองไม่ได้ ตราบใดที่คิมจงอินยังคงสาวนิ้วเขามาลึกๆ กดเน้นย้ำในจุดที่ทำให้เขาสะดุ้ง ก่อนสอดใสนิ้วเรียวเข้ามาอีกถึงสองนิ้ว ควงวนอยู่แบบนั้นจนช่องทางของเขาขยาย


"อือ.."



โอเซฮุนกัดริมฝีปากแน่น แต่เสียงครางแผ่วเบาในลำคอก็ยังคงดังระบายความเสียวซ่านอยู่เป็นระลอก มันกลัวไปหมด กลัวจนต้องเหลือบตามองผ้าม่านสีเท้าเข้มหลายต่อหลายรอบว่าจะมีใครนึกครึ้มกระชากเปิดออกดูหรือเปล่า


"เราขึ้นสเตจกี่โมง"


"อะ...อีก...สิบ...นาที"


"น่าจะทัน"


"อย่า...โดนตรงนั้น"


เซฮุนหลับตาสูดปากครางแน่น ขอบคุณที่คิมจงอินถอดนิ้วออกไป แต่ก็ถอนหน้าเสียเมื่อเขารู้สึกถึงเชือกที่ผูกกางเกงวอร์มของอีกคน มันฟาดลงมาบนสะโพก ราวกับว่าคนแกะมันรำคาญเสียเหลือเกิน


"เงียบๆล่ะ"


เซฮุนกัดมือตัวเองเเน่น คิมจงอินแหวกก้อนสะโพกเขาออกจากกัน จ่อส่วนปลายเข้ามา ค่อยๆกดจนช่องทางของเขาสามารถกลืนกินเข้ามาได้ และมันเพียงพอแล้วสำหรับการที่เขาจะกลั้นเสียงร้องไม่ไหวอีกต่อไป


"ชู่ว เซฮุน"


"อา..."



คิมจงอินสาวสะโพกออกไป แล้วกดแนบเข้ามาให้ลึกกว่าเดิม ทำแบบนั้นซ้ำๆจนสุดท้ายลูกชายของหมอนั่นก็ถูกเขากลืนกินเข้ามาจนหมด ความจุกจากเมื่อคืนยังไม่หายดีเลยด้วยซ้ำ ตื่นเช้ามาก็ต้องมาเจออีกรอบ เล้วจะให้เขาเอาแรงที่ไหนไปเดิน



เซฮุนเงยหน้ามองภาพตัวเองกัดมือ ใบหน้าแดงก่ำเพราะการกลั้นเสียง ลำตัวเริ่มขยับเขยื้อนไปตามแรงกระแทกที่ถูกส่งมาจากด้านหลัง คิมจงอินใส่เสื้อผ้าจนครบ เพียงแค่เอาส่วนนั้นออกมาสอดใส่เขาเท่านั้น ให้ตาย เซฮุนรู้สึกว่าตัวเองโง่เง่ายังไงก็ไม่รู้ ทั้งที่ควรรู้ตัวแต่แรกแล้วแท้ๆว่าคนผิวแทนลากเข้ามาในห้องแต่งตัวพร้อมกันทำไม


"อือ..อื้อ"



ร่างบางร้องกระเส่าเมื่อมือหนาบีบเค้นสะโพก ลากยาวมาถึงส่วนแข็งขืนของเขาที่สะบัดไปตามแรง คิมจงอินยกยิ้ม สบตากับเขาผ่านกระจกแล้วยักคิ้วกวนประสาทหนึ่งข้าง พระเจ้า! โอเซฮุนจะทำยังไงดี


คนผิวแทนยังคงสาวสะโพกเข้าออกไม่เลิก แถมยังต้องพยายามไม่ให้เนื้อกระแทกโดนกันเพื่อไม่ให้เกิดเสียงดัง แต่เพราะแบบนั้นมันเลยยิ่งทำให้โอเซฮุนทรมาน เข้าใจไหมว่าพอได้ทำ มันก็รู้สึกเจ็บแปลบในท้องจนไม่ไหว อยากจะให้อีกฝ่ายกระแทกเข้ามาให้เต็มแรงให้มันจบๆไปซะ


"แรงกว่านี้ได้ไหม...อะ"


คนตัวขาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า และคิมจงอินก็จัดให้เขาด้วยการกระแทกเข้ามาลึกกว่าเดิมจนต้องกลับไปกัดริมฝีปาก เสียงทุ้มหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะปัดมือเขาที่พยายามจะจัดการส่วนแข็งขืนของตัวเอง


"เดี๋ยวใช้ปากให้ มันจะเลอะ"



"อะ...อา อย่าบอกนะว่าจะปล่อยข้างใน?"


มันช่างน่าตลกสิ้นดีที่เราต้องมากระซิบคุยกัน ทั้งที่เสียงข้างนอกก็ดัง แต่เชื่อเถอะว่าคงมีคนตกใจที่มีคนมาทำเรื่องบัดสีแบบพวกเขาในห้องแต่งตัว


"อา...ก็ใช่น่ะสิ"


"แล้วฉันจะเอาเวลาที่ไหนไปเอาออก อะ...ตรงนั้น"


"จะเอาออกทำไม"


"ก็วันนี้ต้องเต้น!"


"เต้นมันทั้งแบบนี้นั่นแหละ"


เซฮุนเบ้หน้าเมื่อจงอินเริ่มเร่งความเร็วมากกว่าเมื่อครู่ เสียงเฉอะแฉะดังขึ้นในห้องเเต่งตัวเล็กๆทำให้หน้าขึ้นสี นึกขอบคุณโปรดิวเซอร์ที่เช็ดคความพร้อมเครื่องเสียงด้วยการเปิดเพลงวงเขาจนดังลั่น แต่มันก็เท่ากับการย้ำว่าอีกไม่กี่นาทีพวกเขาจะต้องไปยืนพร้อมกันที่ข้างเวทีแล้ว


"อะ...อา เซฮุน รัดอีก"


เซฮุนอยากจะหันไปฟาดคิมจงอินซักฉาดข้อหาพูดจาลามกด้วยใบหน้าแบบนั้นใส่เขาผ่านกระจก แต่ก็ทำไม่ได้ ในเมื่อการขยับตัวมากจะนำไปสู่การส่งเสียงร้องครางไปให้คนด้านนอกได้ยิน



"เซฮุน! จงอิน! อยู่ไหนน่ะ"



เซฮุนตัวชาเมื่อได้ยินเสียงพี่จุนมยอนเรียกจากด้านนอก สบตาคิมจงอินผ่านกระจก แต่หมอนั่นทำเพียงแค่ยิ้มเยาะแล้วสวนสะโพกเข้ามาด้วยความรุนแรงเท่านั้น



"เซฮุน! อีกห้านาทีจขึ้นซ้อมแล้วนะ จงอิน! อยู่ไหนเนี่ย"



คราวนี้กลายเป็นพี่ชานยอลแทน เซฮุนกำมือแน่นเมื่อจู่ๆก็รู้สึกมวนท้องขึ้นมา เขาทนไม่ไหวจนต้องเอื้อมมือไปรูดแกนกายตัวเองในที่สุด ถ้าขืนปล่อยให้ทุกคนรอล่ะก็เขาต้องถูกจับได้แน่



"ดื้อจัง"



"อะ...อ้ะ"



ไม่มีเสียงตอบรับเพราะตอนนี้โอเซฮุนไม่มีสติอีกต่อไป แล้ว ทุกอย่างขาวโพลนเมื่อเขาแตะเส้นชัยก่อนคิมจงอินเสียอีก ก็การถูกปรนเปรอจากทั้งด้านหน้าด้านหลังน่ะมันเป็นอะไรที่เกิดต้านทานจริงๆ เซฮุนมองภาพน้ำขาวขุ่นที่พุ่งตกลงไปที่พื้นอย่างเหนื่อยหน่ายใจ กำลังจะขยับตัวหนีคิมจงอินแต่หมอนั่นกลับดึงสะโพกเข้าไปจนชิด ก่อนปลดปล่อยความอุ่นร้อนเข้ามาในลำตัวเขาจนหมด


"อา..."


เซฮุนถูกผลักออกจนสามารถยืดตัวตรงได้ปกติ ปวดหลังจนต้องเอี้ยวตัวบิดกล้ามเนื้อ ก่อนหน้าขาวจะขึ้นสีเพราะน้ำขาวขุ่นที่ไหลออกมาจากช่องทาง เปรอะเปื้อนไปตามเรียวขายาว


"แต่งตัวซะนะ ที่รัก"


ได้แต่หันกลับไปมองคิมจงอินที่มุดออกไปจากม่านด้วยความรวดเร็ว ได้ยินเสียงหมอนั่นรูดม่านอีกห้องเปิดแล้วก็คิดว่าคนผิวแทนคงจะไปแต่งตัวบ้าง แล้วมันเรื่องอะไรกันที่ทิ้งความเลอะเทอะไว้ให้เขาจัดการ!


"เซฮุน อยู่ในห้องแต่งตัวหรือเปล่า?"



คนตัวขาวหันขวับ กลั้นใจถอดถุงเท้าที่ใส่อยู่ทั้งสองข้างเช็ดคราบขาวบนพื้นออกแล้วยัดทิ้งลงถังขยะอย่างร้อนรนเมื่อได้ยินเสียงพี่แบคฮยอนเรียก ถอนหายใจอีกครั้งเมื่อนึกขึ้นได้ว่าคิมจงอินทิ้งอะไรไว้ตามขา แต่เขาก็ไม่มีอะไรจะเช็ดแล้ว ได้แต่ยัดขาเข้าชั้นในและกางเกงไปทั้งเปียกๆแบบนั้น และมันเป็นจังหวะเดียวกันกับที่พี่แบคฮยอนรูดม่านเปิดออกพอดิบพอดี


"เอ้า อยู่นี่ไงทุกคน"  พี่ชายตัวเล็กหันไปพูดกับเมมเบอร์ที่ยืนทำหน้าเครียดอยู่ ก่อนทุกคนจะถอนหายใจแล้วมองมาทางเขาเป็นตาเดียว "เข้าไปทำอะไรในนั้นตั้งนาน ดูสิเหงื่อออกอีก ไปเติมเครื่องสำอางค์เลยไป"



"อ่า..ครับ"



ไม่มีอะไรจะเถียง เขาเถียงไม่ออกจริงๆ ได้แต่สอดมือเข้ากระเป๋ากางเกงซ่อนรอยฟันที่กัดเอาไว้จนแดงเถือก ได้แต่หวังว่าแฟนคลับจะไม่เห็นมันในตอนที่ขึ้นสเตจนะ


แล้วไอ้สิ่งที่ไหลเลอะตามขานี่ก็อีก แล้วเขาจะเต้นยังไงในเมื่อมันไหลออกมาชื้นแฉะไม่หยุดทั้งที่แค่ขยับขาเดินแบบนี้ ให้ตายสิคิมจงอิน! 


จะไม่เข้าไปหาในห้องถึงสามวันเลยคอยดู!






-END-


โอเค บาย

#ทำนองโฟรเซ่น

#affkaihun


คือมันชั่ววูบ / หนีไปปั่น 3918



























1 ความคิดเห็น:

  1. หนูชอบความชั่ววูบนี้ค่ะแม่คะะะะะะะ
    เอ่อีกกกกกกกก -,.-

    ตอบลบ