19.6.59

KAIHUN - BLACK HAIR [EXO OS]

40+++++++

ขออนุญาตระบายความโมโหลงกับเอ็นซีบทนี้…






Black hair



ชั่ววูบ

สติหลุด

จงอินผมดำหล่อมาก

โมโหที่บ้านไฟดับแล้วน้ำก็ไม่ไหลด้วย


#affkaihun


"อยู่นิ่งๆจะได้ไหม"


น้องเล็กของวงกลอกตาไปมา อยากจะจับคิมจงอินให้นั่งนิ่งๆเลิกยุกยิกเสียเหลือเกิน ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้มือเขาเลอะสีย้อมผมเต็มไปหมด

แล้วมันเรื่องบ้าอะไรกันกับการที่คิมจงอินนึกครึ้มอยากจะย้อมผมกลับทั้งที่กัดเสียจนจะเป็นจะตายตอนแรก พอคิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ผู้ชายคนนี้ตีหน้ามึนดีเสียยิ่งกว่าเจ้ามงกูเสียอีก


"ก็นิ่งอยู่"


"นิ่งที่ไหนล่ะ อย่าทำให้ฉันโมโหสิ"


โอเซฮุนปาดสีย้อมผมลงไปจนตอนนี้มันเกือบจะครบทั้งหัวแล้ว แน่นอนว่ากลิ่นมันลอยคลุ้งไปทั่วหอจนพี่แบคฮยอนถึงกับเดินออกมาตะโกนย่าห์ๆๆๆใส่เป็นสิบๆรอบ ส่วนเขาก็ได้เพียงแต่ชี้ไปทางคิมจงอินและบอกให้พวกพี่โทษคนผิวแทนเท่านั้น เซฮุนจะไม่เข้าไปอยู่ในขบวนการสร้างกลิ่นรบกวนนี่เด็ดขาด


"ก็นั่งมาตั้งนานแล้ว เมื่อย" คนผิวแทนเงยหน้าขึ้นมองเขาที่ยืนซ้อนหลังอยู่ "อยากขยับตัวจะแย่..." และใบหน้าคมก็ถูกมือของเขาดันให้หันกลับไปทางเดิม


"ทนสิ ใครกันล่ะที่บอกอยากจะเปลี่ยน"


แล้วอีกเรื่องนึงที่หงุดหงิดคือการที่จงอินมาเคาะห้องเขา ทำหน้ามึนใส่แล้วบอกว่าอยากย้อมผมทั้งที่ตอนนี้มันก็ตีสอง ดีหน่อยที่พรุ่งนี้มีงานประมาณบ่าย ไม่อย่างนั้นเขาจะเคาะหัวหมอนี่ด้วยไม้กวาดสักด้าม


"ก็คนแถวนี้บอกว่าคิดถึงผมดำ"


"ใคร"


เซฮุนชะงักมือไปเล็กน้อย แต่ก็ยังคงทำทีปากแข็งปาดสีลงบนผมต่อไป หยิบกิ๊บเหล็กของพี่แบคฮยอนขึ้นมาหนีบเอาไว้เพื่อให้มันไม่หยดลงมาเลอะเทอะ แล้วผละออกมายืนมองผลงานตัวเองเมื่อตอนนี้ไม่เหลือพื้นที่ผมสีบลอนด์เป็นหย่อมๆเหมือนเมื่อครู่ให้รำคาญใจอีกต่อไป


โอเค เขาพูดเองนั่นแหละเรื่องที่คิดถึงคิมจงอินตอนผมดำ ก็ตอนนี้หมอนี่ฮอตปรอทแตกจนเวทีจะพัง แฟนคลับกรี๊ดกันเหลือเกิน อยากจะจับมามัดจุกเป็นพุดเดิ้ลไปเลย ดูซิสาวๆยังจะกรี๊ดกันอีกไหม


เรื่องราวมันคงจะจบลงแล้วถ้าหากคิมจงอินไม่ระบายรอยยิ้มมุมปาก ละสายตาจากหนังสือถามตอบที่เคยเอาไปใช้ในวีแอพกับแฟนคลับแล้วพลิกใบหน้ามามองเขาที่ยืนอยู่ข้างหลังแทน คนตัวขาวขมวดคิ้วกลับไป พอจะเดินไปล้างมือก็ดันโดนดึงชายเสื้อเอาไว้ก่อน


"ไม่ชอบเหรอ"


"ชอบอะไร"


"ผมดำไง"


"ก็ไม่ได้บอกว่าไม่ชอบนี่" เซฮุนกลอกตามองเพดาน


"ก็เห็นบ่น ก็เลยให้ย้อมกลับให้"


"ฉันบ่นตอนไหน?"


"เมื่อคืน ตอนที่เรากำลังมีอะ-"


"หยุด! ห้ามพูดมันออกมา"


โอเซฮุนชี้หน้าคมด้วยนิ้วตัวเองจนปลายนิ้วเกือบกระแทกเข้าลูกตาอีกฝ่าย ให้ตาย คิมจงอินจะขยันทำให้เขาหน้าร้อนไปถึงไหนกัน มันใช่เรื่องเหรอที่จะมาพูดเรื่องน่าอายแบบนั้นทั้งที่ีนั่งอยู่ตรงห้องนั่งเล่นด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์ พี่แบคฮยอนกับพี่จงแดก็ป้วนเปี้ยนไปมาอยู่ตลอดแบบนี้ ถ้าใครมาได้ยินเข้าจะทำยังไงกันเล่า


"ทำไมล่ะ"


"คิมจงอิน!"  


สียงเป็ดเอ่ยอย่างหัวเสีย อันที่จริงก็แกล้งหงุดหงิดกลบเกลื่อนความเขินอายในตัวไปเท่านั้น สุดท้ายก็ต้องสะบัดตัวเองออกจากมือหนาแล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างมือแล้วเดินผ่านคิมจงอินกลับห้องพี่จุนมยอนไปเลย จะปล่อยให้นั่งอยู่ตรงนั้นจนกว่าผมจะแห้งแข็งเลยคอยดู กล้าดียังไงมาพูดจาทะลึ่งตึงตังแบบนั้นใส่เขา


มือบางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเช็คนู่นนี่นั่นไปเรื่อย จนเวลาผ่านไปสิบนาทีแล้วก็ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง ก็เลยตัดสินใจกดเข้าอินสตราแกรมเพื่ออ่านคอมเม้นท์แฟนคลับฆ่าเวลา จริงๆเขาจะปล่อยให้คิมจงอินไปล้างออกเองก็ได้ แต่ลึกๆก็อยากเห็นเหมือนกันนะว่าถ้ากลับมาผมดำแล้วจะเป็นยังไง จะดูเด็กเหมือนเมื่อก่อน หรือจะฮอตปรอทแตกยิ่งกว่าตอนผมบลอนด์


พอรู้ตัวว่ากำลังจินตนาการภาพคิมจงอินผมดำมากไปก็เลยต้องส่ายหน้าไล่ หันไปขำให้กับคอมเม้นท์ของบางคนที่ส่งอะไรมาแบบตลกๆ จนเสียงประตูห้องถูกกระชากเปิดดังขึ้นเซฮุนจึงละใบหน้าออกจากหน้าจอ


พี่จุนมยอนนั่นเองที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเหนื่อยๆ เห็นว่ากลับบ้านไปหาคุณแม่มาแล้วก็กลับมาที่หอต่อเพราะพรุ่งนี้มีงานเลยอยากออกไปพร้อมๆกันหรือยังไงเนี่ยแหละ ลีดเดอร์ผิวขาวทิ้งตัวลงนั่งที่ปลายเตียงคู่ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คตารางงานแล้วเอ่ยชวนเขาคุยถึงเรื่องหนัง CAT MAN ที่ถ่ายทำไป


ซึ่งเซฮุนก็ตอบอย่างไม่อิดออดจนลืมเวลา หันไปดูนาฬิกาอีกทีก็พบว่ามันเกือบจะห้าสิบนาทีเข้าไปแล้ว ให้ตายสิ ป่านนี้คิมจงอินจะหลับคาห้องนั่งเล่นไปหรือยัง สุดท้ายก็เลยถูกพี่จุนมยอนไล่ให้ออกไปดูเมมเบอร์ที่อายุเท่ากันหน่อยว่าป่านนี้ยังไม่สัปหงกคอพับจนสีย้อมผมเลอะโซฟา


แต่พอออกไปเขากลับไม่พบคิมจงอินที่ควรจะนั่งอยู่ที่โซฟาแล้ว ก็เลยคิดเองเออเองว่าหมอนั่นคงจะอยู่ที่ห้องน้ำหนึ่งในสองห้องของหอเราแน่ คิดได้ดังนั้นก็เลยเดินไปที่ห้องน้ำที่ใกล้กับห้องพี่ชานยอลก่อน แต่ไฟมันถูกปิดอยู่ โมเมเอาเองเสร็จสรรพว่าไม่มีคนแน่ ก็เลยเดินไปที่ห้องน้ำอีกห้องหนึ่งที่อยู่ข้างห้องพี่แบคฮยอน


พวกเราไม่เคยล็อคประตูเวลาอาบน้ำ เพราะยังไงข้างในก็มีประตูกระจกขุ่นกั้น มันคืออีกกฎที่พี่แบคฮยอนตั้งขึ้นมาตอนโมโหว่าอยากแปรงฟันแต่พี่มินซอกดันล็อคห้องน้ำ ซึ่งเขาเองก็ต้องทำตามอย่างบ้าคลั่งเพราะไม่อยากเห็นพี่แบคฮยอนทุบตีประตูอย่างเกรี้ยวกราดอีก และอีกอย่าง พวกเราทุกคนก็เป็นผู้ชาย หอนี้ห้ามมีผู้หญิงอยู่แล้ว คงไม่แปลกที่เราจะไม่ระวังตัวเหมือนอยู่ในโรงเรียนชายล้วนแบบนี้


เซฮุนผลักประตูเปิดเข้าไปอย่างเชื่องช้า แสงไฟในห้องน้ำทำให้เขาเห็นเงาคนอยู่ในประตูกระจกกั้น รวมไปถึงเสียงน้ำไหลซ่าคืออีกหนึ่งอย่างที่ยืนยันว่านั่นคือคิมจงอินไม่ผิดแน่ เสื้อผ้าของหมอนั่นถูกถอดกองเอาไว้ที่หน้ากระจก โอเซฮุนจึงยืนพับมันอยู่ตรงนั้นแล้วเอาไปหย่อนลงตะกร้าเพื่อเตรียมเอาไปซัก


"ถ้าจะยืนอยู่ตรงนั้น ก็เข้ามาในนี้เลยดีไหม"


"จะบ้าหรือไง"


"ช่วยหน่อย น้ำมันยังเป็นสีดำอยู่เลยเซฮุนนา..." เซฮุนเผลอชะงักเมื่อเสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยออดอ้อนเขามาจากด้านใน  "นะ ที่รัก"


ขาเรียวก้าวเข้าไปใกล้ชิดกระจกอย่างเชื่องช้าเมื่อแพ้ให้กับมารยาของคนผิวแทน เขาก็แค่อยากช่วยเท่านั้น ไม่ได้มีสาเหตุอื่นหรืออะไร มือบางเอื้อมไปจับที่ผลักประตู มันสั่นเสียจนเกือบไม่มีเเรง แค่มองจากเงาเขาก็รู้ รู้ว่าคิมจงอินคงยืนเปลือยร่างกายสมส่วนอยู่ในนั้น ทั้งที่เคยเห็นมาไม่รู้กี่ครั้ง แต่ก็ใจสั่นทุกครั้งที่ได้เห็นผิวสีแทนเวลาไม่มีอะไรปิดบัง


คนด้านในช่วยเขาดึงประตูจนมีพื้นที่พอจะให้แทรกตัวเข้าไปได้ เซฮุนจึงเสหน้ามองไปอีกทาง ก้าวเข้าไปด้านในโดยไม่ลืมยกขาให้พ้นขอบกระเบื้องที่กั้นเอาไว้กันน้ำไม่ให้ล้นออกไป คิมจงอินหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางประหม่าของเขา และมันทำให้คนปากแข็งแบบโอเซฮุนถึงกับหันไปตวัดตาใส่


แต่มันคือสิ่งที่เขาทำผิดพลาดที่สุดในชีวิต ในเมื่อภาพแผ่นหลังและบั้นท้ายเปลือยเปล่าสีแทนยืนอยู่ท่ามกลางสายน้ำที่รินรดตั้งแต่เรือนผมดำลงมาจนเปียกลู่ พาสีย้อมผมสีเข้มไหลลงมาตามกระดูกสะบัก ไหลเทิ้มมาตามร่องสันหลังจนไปถึงสะโพกแบนราบเรียบ เรียวขาแน่น ไปจนถึงปลายนิ้วเท้าที่เรียงตัวอย่างสวยงาม


โอเซฮุนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เมื่อเห็นว่าคิมจงอินทำเพียงแค่ยืนเกาะกำแพงภายใต้สายน้ำก็เกิดนึกหมั่นไส้ เงยหน้าขึ้นไม่ให้มองต่ำไปมากกว่านั้นแล้วตรงเข้าไปสอดมือเข้าที่กลุ่มผมตรงท้ายทอย เสียงคนผิวแทนหัวเราะทำให้เขาเขินจนหน้าแดง เรียกให้มือบางอีกข้างเผลอยกขึ้นฟาดหลังจงอินจนขึ้นสีแดงเป็นริ้ว


"อ่า เจ็บ จัง~"


เสียงทุ้มทั้งกระเส่า แหบพร่า และเย้ายวนจนเซฮุนต้องกัดริมฝีปากแน่น มือของเขาทั้งสองข้างยังขยุ้มและขยี้ไปตามกลุ่มผมสีดำที่เปียกน้ำ จากน้ำที่ไหลผ่านกลุ่มผมเป็นสีดำ จนตอนนี้เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีใสมากขึ้นเรื่อยๆ พอๆกับที่ร่างกายของเขาเปียกเสียจนเห็นอะไรต่อมิอะไรภายใต้เสื้อยืดสีขาวบางทีเอาไว้ใส่นอนเกือบหมด


คิมจงอินใช้มือตัวเองเสยผมมาด้านหลัง หมอนั่นจงใจลากนิ้วร้อนแตะลงที่ปลายนิ้วของเขา ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นการดึงมือเขาไปหาใบหน้าตัวเอง เพราะแรงดึงจึงทำให้โอเซฮุนต้องขยับเข้าไปใกล้ร่างหนามากขึ้น เผลอยันมือลงกับแผ่นหลังคิมจงอินอัตโนมัติเมื่อแผ่นอกบางกำลังจะทาบทับลงไป ซึ่งเขาเองก็ไม่อยากจะเปียกมาก มันทั้งหนาว และก็ยังน่าอาย


คนผิวแทนดึงมือเขาไล้ไปตามใบหู สันกราม จนปลายนิ้วของเขาสัมผัสได้ถึงความนุ่มและอุ่นร้อนจากปลายลิ้นชื้นแฉะ สายน้ำยังคงเป็นสิ่งปลุกเร้าความร้อนในร่างกายให้เพิ่มพูนเมื่อมันสร้างความเย็นจนบาดผิว


"จะ...จงอิน"


โอเซฮุนสั่นเมื่อปลายนิ้วของเขาถูกขบเม้มจากฟันคม ลิ้นร้อนตวัดรอบที่ปลายเล็บพร้อมกับการดูดดึงอย่างหยอกล้อ เขาจิกมืออีกข้างลงกับหลังสีแทนอย่างแรงพร้อมกับการซบหน้าผากลงไปบนไหล่กว้าง ไม่สนใจอีกแล้วว่ามันจะเปียกมากมายขนาดไหน จะให้เขายืนโชว์หน้าแดงๆให้คิมจงอินเห็นผ่านหางตาเหรอ ไม่มีทางเสียหรอก


"อยากเห็นจัง"


"อะ...อะไร"


"ใส่เสื้อสีขาวอยู่ไม่ใช่เหรอ"


คนผิวแทนมองผ่านไหล่ตัวเองมาด้านหลัง สันกรามขึ้นเด่นชัดจนเซฮุนต้องเสมองไปทางอื่นเพื่อสงบเสียงหัวใจของตัวเอง ริมฝีปากหนาพรมจูบลงที่อุ้งมือของเขา ลากมาที่ข้อมือ ขึ้นสูงมาเรื่อยๆจนไม่สามารถแตะต้องได้ถึงอีก


เซฮุนพยายามจะชักมือกลับ แต่ก็ทำแบบนั้นไม่ได้จึงต้องปล่อยให้มือหนาประสานนิ้วเขาไว้จากหลังมือ ร่างกายตอนนี้เปียกชื้นเสียยิ่งกว่าการกระโดดลงสระว่ายน้ำ ขากางเกงเริ่มชุ่มน้ำจนเปียกหนัก คนตัวขาวสูดลมหายใจเข้า เอ่ยตอบคำถามจากคิมจงอินเมื่อครู่ด้วยเสียงสั่น


"ใช่"


แต่คิมจงอินก็ทำให้เขาสั่นหนักกว่าเก่า เมื่อดวงตาเรียวช้อนขึ้นจากข้อมือมาจดจ้องเข้าที่ดวงหน้าขาว ในนั้นมีแต่อานุภาพทำลายล้าง เล่นเอาร่างกายของเซฮุนอ่อนยวบยาบไปตามแผ่นหลังสีแทน


"อยากเห็นตอนเปียกจังเลยเซฮุนนา..."



"จะบ้าหรือไง"


"นะ..."


"จงอิน"


"นะครับ ที่รัก"


โอเซฮุนเม้มริมฝีปากแน่น เขาพ่ายแพ้เสียทุกครั้งกับการที่คิมจงอินใช้เสียงทุ้มที่แหบพร่ากระซิบใส่ใบหู พ่ายแพ้อย่างราบคาบเสียจนพาตัวเองแทรกกายบางไปยืนที่ด้านหน้าอีกคนอย่างเชื่องช้า คิมจงอินเบาน้ำจากฝักบัวเพื่อไม่ให้มันกระแทกลงบนผิวหน้าเขา แล้วก้มหน้าลงมาจ้องตาใสเเทน


ร่างบางยกมือขึ้นกอดตัวเองเมื่อตอนนี้เสื้อสีขาวเปียกแนบลู่ไปหมด เรียกให้คนผิวแทนลากสายตามองอย่างหื่นกระหาย ก่อนมือของเขาจะถูกอีกคนแกะออกจากอกแล้วทาบทับลงไปบนกำแพงเย็นเฉียบ


คิมจงอินแทรกกายหยาบเข้ามาในสายน้ำ จดจ้องใบหน้าของเขาที่ไม่รู้ว่าตอนนี้มีสภาพเป็นยังไง น้ำที่ไหลลงมาจะช่วยบดบังความแดงจองมันได้บ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้


"ขาว" โอเซฮุนพลิกใบหน้าหนีเมื่อใบหน้าคมแทรกลงมาที่ซอกคอ กำมือคิมจงอินแน่นในตอนที่ฟันคมขบเม้มลงมาแผ่วเบา "หอมด้วย"


"อย่าทำรอยนะ พรุ่งนี้ไปอินกิฯ"


"หืม?" คนผิวแทนชะงักในตอนที่ลากลิ้นร้อนลงบนซอกคอของเขา "แสดงว่าข้ามขั้นไปทำอย่างอื่นได้เลยใช่ไหม?"

ไม่มีคำตอบจากคนผิวขาว เซฮุนทำได้เพียงแค่กำมือลงกับมือตัวเองเเน่น เมื่อมือหนาลูบไล้ลงไปในชายเสื้อบีบเค้นเนื้อตัวของเขาอย่างเมามันส์ ริมฝีปากหนาจูบไล้ไปตามซอกคอ ไหปลาร้า อกบาง จูบผ่านเสื้อยืดสีขาวทิ้งร่องรอยความร้อนเอาไว้เป็นจุดๆ


“อื้อ...”


เซฮุนกัดฟันกลั้นเสียงสุดชีวิตเมื่อจงอินสอดมือเข้าไปในกางเกงวอร์ม เคล้นคลึงสะโพกกลมของเขาด้วยแรงทั้งหมดที่มี ลากนิ้วไปยังร่องตรงกลาง ตวัดลูบไล้ไปตามช่องทางอุ่นร้อน กดดุนดันเข้าไปนิดหน่อยเล่นเอาคนตัวขาวต้องแอ่นกายรับ


มือที่เคยกำอยู่เเปรเปลี่ยนเป็นการจิกลงบนไหล่หนา จงอินถลกกางเกงวอร์มเขาลงด้วยมือสองข้าง ภายในครั้งเดียวมันก็ร่นลงไปถึงข้อเท้า เผยความขาวเนียนละเอียดของผิวกายที่คนผิวแทนชมนักชมหนาว่าสวยเหลือเกิน


เซอุนหลุบตามองอีกฝ่ายที่คุกเข่าลงตรงหน้าเขา มือของโอเซฮุนไปไม่ถึงไหล่กว้างอีกต่อไป ถ้าจะให้เขาทำอะไรสักอย่างคงจะเป็นกลุ่มผมสีดำที่ถูกมือหนายกขึ้นมาเสยปาดไปด้านหลัง และท่าทางแบบนั้นทำเอาหัวใจของเขาสั่นแกว่งไกว สั่นเสียจนต้องกัดริมฝีปากแน่นยิ่งกว่าเดิม มันยิ่งกว่าตอนที่คิมจงอินเต้นในน้ำที่คอนเสิร์ตเสียอีก เพราะตอนนี้โอเซฮุนสามารถมองมัดกล้ามเป็นลอนที่หน้าท้องอีกฝ่ายชัดเจน ชัดมาเสียจนอยากตะกุยด้วยมือให้ขาดวิ่น


คิมจงอินเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ เซฮุนอายจนอยากพลิกตัวหนีแต่ก็ทำไม่ได้ในเมื่อจงอินจับข้อเท้าเขาเอาไว้มั่น คนผิวแทนจับมันแยกออกจากกันจนร่างเขาเกือบเซล้ม


เซฮุนเบิกตากว้างเมื่อใบหน้าคมแหงนขึ้นภายใต้ช่องว่างระหว่างขาของเขา ก่อนจะต้องจิกลงบนกลุ่มผมสีดำแน่นเมื่อปลายลิ้นร้อนตวัดแตะลงที่ช่องทางด้านหลัง


เขาต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหนกันในการกลั้นเสียงครางไม่ให้หลุดออกไป ขนาดแค่พี่แบคฮยอนร้องเพลงตอนอาบน้ำเขายังได้ยินทั้งที่ห้องนอนอยู่ไกลจากตรงนี้ไปอีกตั้งเยอะ แต่ห้องน้ำนี่อยู่ติดกับห้องพี่แบคฮยอน ถัดไปก็เป็นห้องพี่จงแดกับพี่มินซอก แถมห้องพี่ชานยอลก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลอีก แกงค์บีเกิ้ลต้องเก็บเอามาล้อแน่ถ้าหากได้ยิน


คนตัวขาวเชิดหน้าเมื่อคิมจงอินถ่มน้ำลายใส่มือตัวเอง สอดแทรกก้านนิ้วเรียวเข้ามาทีเดียวจนสุด ไม่ไถ่ถามเขาสักคำว่าเจ็บหรือไม่เจ็บ จะส่งเสียงร้องตะโกนก็ทำได้แค่เพียงเล่นละครใบ้กับฝ่ามือ


จงอินควงนิ้ววนไปมาจนขาเขาเกือบอ่อนเเรง แต่มือหนาอีกข้างก็พยุงเขาเอาไว้โดยการช้อนสะโพก เซฮุนกำเสื้อตัวเองขึ้นมากัดเอาไว้แน่น อย่างน้อยถ้าตอนนี้มีอะไรปิดปากเขาไว้หน่อยก็ยังดี ไม่รู้ตัสเลยสักนิดว่าภาพนั้นมันเซ็กซี่จนทำให้ใจคนผิวแทนสั่นขนาดไหน



“อื้อ...อือ”


คนผิวแทนยังคงตวัดนิ้วเข้ามาไม่หยุด จากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสาม แกล้งถ่างออกเล็กน้อยเพื่อขยายช่องทางเป็นบางครั้ง แถมยังงอนิ้วด้านในให้เขาต้องหลับตาแน่นพร้อมสูดปากครางอีกต่างหาก


บ้าที่สุด! มันบ้าไปหมด ร้อยวันพันปีหมอนี่ไม่เคยลามกมากขนาดนี้มาก่อน แล้ววันนี้มันอะไรกัน ผมสีดำเเล้วรสนิยมเปลี่ยนงั้นหรือไง!


“จงอิน เบาหน่อย...”


คนผิวแทนหัวเราะร่า กดจูบลงบนหน้าขาเขาแล้วส่งริมฝีปากเข้าครอบครองส่วนกลางลำตัวด้วยหน้ามึนๆ


“เดี่ยว...อา...พี่ๆได้ยิน”


เซฮุนขยุ้มมือลงบนเส้นผมเปียกชื้นจนเกือบเรียงได้ว่าดึงทึ้ง แผ่นหลังแอ่นเเนบชิดกับกำแพงพร้อมแอ่นสะโพกรับสัมผัสวาบหวาม ลืมความขลาดอายก่อนหน้านี้ไปจนหมด ถึงแม้ว่าคิมจงอินจะช้อนตามองเขาอยู่ก็ตามที


“อะ...”


ร่างบางบิดเร้าเมื่อถูกปรนเปรอให้พร้อมกันทั้งสองทาง ความรู้สึกพลุ่งล่านจนอยากจะได้อะไรที่มันมากกว่านี้ ดีกว่านี้ เร้าใจมากกว่านี้ เรียกสติให้มือบางต้องรีบผลักศรีษะคิมจงอินออกไปให้พ้นจนก้านนิ้วเรียวหลุดออกมาจากโพรงอุ่นร้อน ริมฝีปากคายเสื้อเปียกชื้อที่คาบอยู่ออกจนมันตกลงไปค้างอยู่ที่อก


“แฮ่ก...ไม่...ไม่ไหวแล้ว”


“หืม?”


ร่างหนาหยัดตัวลุกขึ้นจากพื้น จ้องมองใบหน้าเขาในระยะใกล้จนอะไรๆเรามันแตะโดนกันไปเสียหมด คนตัวขาวคล้องลำคออีกฝ่ายอย่างลืมตัว พร้อมกับการแนบหน้าผากเข้าหากัน


เกลียวลิ้นร้อนถูกตวัดโลมเลียกันจากภายนอก ดูดดุนจนสุดท้ายริมฝีปากของพวกเราก็แตะกันในที่สุด


จงอินใช้มือหนายกสะโพกเขาให้เขย่งปลายเท้าขึ้น ก่อนเรียวขาวยาวราวกับนางแบบจะตวัดโอบรอบสะโพกแกร่งอย่างรู้งาน เซฮุนถูกดันจนแผ่นหลังแนบชิดกำแพงทุกตารางนิ้วโดยมีมือทั้งสองข้างของจงอินช่วยพยุงเขาไว้เป็นฐาน


ให้ตาย นี่มันน่าอายเป็นบ้า แต่ก็โคตรจะเร้าใจเลย


“ใส่...เข้ามา...”


“ใจร้อนจังครับที่รัก”


คิมจงอินมองเขาด้วยสายตาแพรวพราว เราผละออกจากกันแค่ไม่กี่เซนติเมตร จนสามารถเห็นภาพใบหน้าเปียกชื้นของกันและกันผ่านม่านตาของอีกฝ่ายได้ชัดเจน


“เดี๋ยวนี้!”


จงอินยกยิ้มมุมปากเมื่อเขาเสียงดังใส่จนเกือบตวาด เสียงทุ้มหัวเราะหึในลำคออย่างขบขันกับท่าทางดิ้นเร่าๆเป็นลูกเจี๊ยบของเขา แก้มก้นขาวถูกมือหยาบแหวกออก ก่อนส่วนปลายที่มีเเต่ความเเข็งขืนจะจดจ่อและดุนดันเข้ามาภายในโพรงอุ่นร้อน


เซฮุนก้มหน้าบังคับจิตและลมายใจให้มันสงบให้มากที่สุด รู้สึกเจ็บเป็นบ้าแต่ก็ต้องยอมรับว่ามันรู้สึกดีเสียยิ่งกว่าบนเตียง คิมจงอินดันเข้ามาจนสุด และมันลึกยิ่งกว่าเดิมเมื่อคนผิวแทนกระเตงตัวเข้าขึ้น


“อ้ะ...”


“อา...ลึกกว่าเมื่อวานอีก”


เซฮุนนิ่วหน้าเมื่อสะโพกแกร่งเริ่มขยับ พยายามเกาะไหล่คิมจงอินเอาไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองตกลงไป อยากจะกระโดดลงไปยืนดีๆเหมือนกัน แต่ติดที่ว่าทำแบบนี้แล้วมันรู้สึกดีจนอยากจะกรีดร้อง


“นี่...อะ...พี่แบคฮยอน...จะได้ยินไหม”


“ตีสาม...”


“อะ...อา”


“ตีแอลอยู่มั้ง”


เซฮุนสั่นคลอนไปตามแรงกระแทก แผ่นหลังเสียดสีกับกำแพงจนเกิดความแสบ หยาดน้ำที่ไหลผ่านตัวเราทั้งคู่ไม่ได้ช่วยลดเเรงแสียดทานเลยสักนิด มันแค่ส่งเสียงซู่ซ่าช่วยกลบเสียงเนื้อกระแทกกันอยู่เท่านั้น


“แล้ว...แล้วพี่ชานยอล”


“เปิดเพลงดังขนาดนั้น ไม่ได้ยินหรอก...”


“อ้ะ...ตรงนั้น...”


โอเซฮุนจิกไหล่กว้างเมื่อคิมจงอินสวนกระแทกเข้ามาโดนจุดรวมความรู้สึกในร่างกาย อยากจะหาอะไรมาอุดปากให้รู้แล้วรู้รอดแต่มองไปก็เจอแต่ขวดครีมอาบน้ำ และเขาคงไม่บ้าพอจะเอามันมาใช้


“ครางออกมาเถอะครับที่รัก...” คนตัวขาวลืมตาที่ปิดสนิทขึ้นเมื่อเสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยข้างหู ขนลุกชูชันเมื่อคิมจงอินตวัดลิ้นร้อนเลีบใบหูอย่างหยอกล้อ “...เรียกชื่อฉัน ดังๆ”


“อา...จงอิน”


โอเซฮุนหลับหูหลับตาแน่น ทำตามที่อีกฝ่ายบอกเพราะควบคุมสติไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว ร่างกายเริ่มเกร็งเป็นส่วนๆ เริ่มจากสะโพก ไล่ลงไปที่ปลายเท้า ไล่ขึ้นมาที่หน้าท้อง หน้าอก และปลายแขน จนสุดท้ายเขาก็ปลดปล่อยทุกอย่างออกมาเลอะหน้าท้องสีแทน ซึ่งสายน้ำก็ช่วยชะล้างความน่าอายนั้นออกไปอย่างรวดเร็ว


เซฮุนหอบหายใจถี่รัว แรงกระแทกที่สะโพกยังคงไม่เบาลง กลับกันมันยังเร่งความเร็วขึ้นต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ เขาแตะมือบางลงบนใบหน้าคิมจงอิน หย่อนขาตัวเองลงแตะพื้นจนส่วนเชื่อมต่อของเราหลุดออกจากกัน


“เดี๋ยวปวดแขน” คนตัวขาวเอ่ย ลูบไล้นิ้วเรียวไปตามสันกรามคม “หันหลังให้แล้วกันนะ”


คิมจงอินสอดใส่เข้ามาอีกครั้ง แค่เพียงรวดเดียวมันก็เข้ามาจนสุด เล่นเอาร่างบางถึงกับสะดุ้ง จิกมือลงกับกำแพงแน่น ห่อปากสูดลมหายใจเข้าอย่างหนักหน่วง สลับกับการร้องครางอื้ออึงเรียกชื่อคนผิวแทนที่กำลังเป็นเจ้าของร่างกายเขาอยุ่ในตอนนี้

เขาได้คำตอบแล้ว คิมจงอินตอนผมดำร้อนแรงเป็นบ้า ร้อนแรงเสียจนคนถูกกระทำกำลังจะหลอมละลายไปพร้อมกับสายน้ำที่เปิดให้รินรดผิวกายผ่านเสื้อยืดตัวบาง


จงอินแตะมือลงกับสะโพกเขาแผ่วเบา ยึดหน้าขาเขาเอาไว้แล้วดึงสวนกับแรงกระแทกของตัวเอง เรียกให้เสียงหวานหลุดออกมาจากริมฝีปากสีเชอรี่ที่เริ่มลากเพราะถูกน้ำนาน ถ้าพรุ่งนี้เขาป่วยขึ้นมาจะทำยังไงกัน คงจะไปซึมในรายการเพลงให้แฟนๆพากันเป็นห่วงอีกแน่ แล้วเขาก็คงไม่กล้าบอกหรอกว่าสาเหตุที่ทำให้ป่วยน่ะมันลามกขนาดไหน


“อา เซฮุนนา...วันนี้น่ารักจัง”


“บ้าไปแล้วเหรอ”


เซฮุนเอ่ยถึงแม้ว่าจะพูดไม่รู้เรื่อง ลำตัวเขาสั่นคลอนไปตามแรงกระแทกและแรงดึงจากมือหนา เรียวขาสองข้างสั่นทั้งจากความกระสันต์และความหนาวเหน็บ


“คราวหน้าที่ห้องครัวดีไหม?”


โอเซฮุนถึงกับถลึงตา หันไปหน้ากลับไปมองคิมจงอินที่ยืนยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์อยู่


“นี่แผนนายใช่ไหม?”


“ชู่ว ดังเกิดไป อา..อย่าขยับมากสิ มันแน่น”

“คิมจงอิน! อ๊า”


เซฮุนนิ่วหน้าเมื่อคนผิวแทนแกล้งด้วยการสวนเข้ามาสุดแรง เล่นเอาต้องรีบหันกลับไปคว้ากำแพงไว้เหมือนเดิมไม่ให้ทรุดลงไปกับพื้น


“หรือระเบียงดี...” เสียงทุ้มเอ่ยเย้ายวน แต่เขาทำได้เพียงแค่กัดปากแน่นอยู่กับอารมณ์ที่ปะทุขึ้นมาอีกครั้งเพราะคิมจงอินแกล้งกดย้ำลงมาที่จุดๆนั้น “อา...แต่แบบนั้นไม่ดีแน่ ฉันหวง”


“อือ...เบา...หน่อย”


“แต่วันนี้...น่ารักจริงๆนะเซฮุนนา...”



-


“เดินเร็วๆหน่อยสิเซฮุน”


คนตัวขาวเงยหน้าขึ้นพยักใส่พี่จงแดที่หันมาเร่งให้พวกเขารีบเข้าไปในสตูดิโออัด แฟนคลับมารออยู่เป็นจำนวนมากและส่งเสียงเชียร์ทันทีที่พี่แบคฮยอนเดินขึ้นไปเป็นคนแรก ถึงจะตอบรับคำพี่จงแด แต่เขาทำแบบนั้นไม่ไหวหรอก ก็มันเจ็บจนร้าวไปหมด ขยับหนึ่งทีก็เจ็บขึ้นมาจนถึงหน้าท้องแล้ว


คิมจงอินเกือบฆ่าเขาตายเมื่อคืน เราไม่ได้หยุดแค่รอบหรือสองรอบเหมือนทุกครั้ง แต่หมอนั่นเจ้าเล่ห์ไปจนถึงตอนที่เขานุ่งผ้าเช็ดตัวจะกลับห้อง แต่ก็ยังลากไปที่โซฟากลางหอ ส่งเสียงออดอ้อนมาว่าให้ออนท็อปให้หน่อยอีกต่างหาก


เขาอายจนต้องมุดโซฟาอยู่ตลอดเวลา แถมยังกลัวว่าพวกพี่ๆจะเปิดประตูพรวดพราดออกมาเห็นอีกต่างหาก แต่สุดท้ายก้พ่ายแพ้เสียงอ่อนหวานที่เอาแต่พร่ำเรียกที่รักซ้ำๆ


ผมสีดำของคิมจงอินไม่ได้โดดเด่นเหมือนกับผมบลอนด์ แต่มันหลับกลายเป็นเหมือนหลุมดำที่ดูดทุกสิ่งทุกอย่างเข้าหาตัว ดึงดูดทุกสายตา รวมถึงดูดจิตวิญญาณของเขาเข้าไปด้วย ยิ่งตอนที่เราซ้อมเต้นในห้องแต่งตัวเมื่อเช้า ยามที่เส้นผมพลิ้วไหวไปมารวมไปถึงตอนที่มือหนาเสยขึ้นอย่างเป็นธรรมชาตินั่นน่ะมันสุดยอดจริงๆ


พวกเราเดินขึ้นไปบนเวที ยืนเล่นกันอยู่แบบนั้นเพื่อให้ทางโปรดิวเซอร์เตรียมกล้องให้พร้อม จนสุดท้ายเขาก็พลาดจนได้ เพราะดันมีแฟนคลับตะโกนขึ้นมาจากด้านล่าง ถามว่าทำไมหน้าของเขาถึงซีดเซียว เรียกให้พี่ทุกคนหันมามองมักเน่อย่างเขาเป็นตาเดียว


“อา...เมื่อคืนผมนอนดึกน่ะครับ”


เซฮุนตอบอย่างสุภาพ ส่งยิ้มลงไปเพื่อให้ทุกคนสบายใจ เหล้าเอลี่ส่งเสียงกลับมาอย่างเป็นห่วง เขาจึงส่งมือรูปหัวใจกลับไปเพื่อให้ทุกคนสบายใจ ก่อนผละหนีออกมาจากตรงนั้นเพื่อไม่ให้ความจริงรั่วไหลว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่


พี่แบคฮยอนเรียกให้พวกเราเดินเข้าไปหาเพราะอยากซ้อมตอนที่จงอินปีนขึ้นบนเข่า แน่นอนว่าเซฮุนก็ไม่อยากขัดให้เป็นที่น่าสงสัย ถึงจะเจ็บสะโพกแค่ไหนก็ต้องกัดฟันเต้นต่อไป


แน่นอนว่าตัวปัญหาอย่างคิมจงอินก็ยังป้วนเปี้ยนอยู่แถวนั้น จนในที่สุดเจ้าตัวก็เดินมาเพราะเป็นตัวหลักที่ต้องขึ้นไปยืนบนเข่า โอเซฮุนแบมือให้อีกฝ่ายจับ แต่กลับกลายเป็นว่าคนผิวแทนเดินเข้ามาเอาอกประชิดหลังเขาแทน พร้อมกับปล่อยคำพูดชวนขนลุกออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง


“คืนนี้ย้อมผมสีอะไรดี...ถึงจะได้แบบเมื่อคืน”


เขาถึงได้รู้ ว่าพลาดท่าให้กับเซนเตอร์ของวงเข้าให้แล้ว แถมยังพลาดอีกเรื่อง เพราะหลังจากที่คิมจงอินกระซิบแล้วเดินออกไป พี่แบคฮยอนก็เดินเข้ามาใกล้ แกล้งหยิกเอวเขาเบาๆพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่พอจะได้ยินกันสองคน


"เมื่อคืนทำไมรุนแรงกันจัง ได้ยินแล้วตกใจเลยเนี่ย"




100%


 อย่าตกใจ
มันกลั่นกรองออกมาจากความโมโหการประปา การไฟฟ้า รุ่นพี่ โมโหแม้กระทั่งว่าแบตโน้ตบุ้คเหลือ 8%แต่ก็ยังคงแต่งจนจบ
รู้สึกว่าเรทและเป็นncที่ยาวที่สุดที่เคยแต่งมา (หรือเปล่า ฮ่าบวก) เพราะความโมโหล้วนๆ

เอาอันนี้ไปก่อน หายโมโหแล้วเดี๋ยวปั่น cactus ให้นะคะ 
ฮึ่ย~~~







17.6.59

3918 warming scene



"เซฮุน"


"..."


"ยังอยากให้ฉันเป็นพ่ออยู่หรือเปล่า"


เสียงทุ้มเอ่ยถาม พร้อมกับการพลิกตัวมาคร่อมทาบทับร่างกายเขาเอาไว้ เซฮุนจดจ้องเข้าไปในดวงตาอีกฝ่ายซึ่งสะท้อนภาพใบหน้าของเขาที่กำลังแดงจัด ระยะห่างระหว่างเราลดลงและเซฮุนก็ไม่คิดที่จะผลักอีกฝ่ายออกไปเลยแม้แต่นิด นั่นคงเป็นคำตอบที่ดีพอเเล้วสำหรับคำถามข้างต้น นับตั้งแต่วันนั้น จูบแรกของเขากับไค ความรู้สึกที่เคยมีตอนแรกมันก็แปรเปลี่ยนไปเสียหมด หมดแล้วจริงๆกับความรู้สึกที่อยากจะหยุดทุกอย่าง


คนตรงหน้าหยุดแนบใบหน้าลงมา ราวกับว่าอยากเว้นระยะห่างให้เด็กวัยสิบแปดปีอย่างเขาตัดสินใจกับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าคืออะไรบ้าง เซฮุนเม้มริมฝีปากแน่น กำเสื้อที่อีกฝ่ายใส่อยู่จบยับ


ก่อนเปล่งเสียงตอบรับออกไป ตัดสินทุกอย่างจากก้นเบื้องของหัวใจโดยไม่ได้คำนึงถึงความผิดบาปที่กำลังจะทำซ้ำอีกครั้ง


"ไม่ครับ..."



คนตัวขาวกลั้นหายใจเมื่อไคเริ่มกดแนบริมฝีปากลงมาตามร่างกาย ผู้ชายคนนี้ไม่เคยทำให้เขาหายใจถูกจังหวะเลยสักครั้ง ไม่ว่ากี่ครั้งที่ฝ่ามือหรือริมฝีปากของไคแตะลงบนเนื้อตัวเขา มันจะทำให้เขาสั่นเทา ร้อนรุ่ม และทำตัวไม่ถูก


มือทั้งสองข้างปัดป่ายไปจิกหมอนที่กองอยู่รอบตัวเอาไว้แน่น ไคสอดฝ่ามือเข้าไปที่ชายเสื้อ เลิกมันขึ้นมาช้าๆจนเขาต้องชูมือขึ้นเพื่อให้มือหนาถอดมันออกไป ไคใช้ริมฝีปากกับร่างกายเขาอีกครั้ง แผ่นอกบางเเอ่นขึ้นรับความร้อนชื้นที่อีกฝ่ายแตะลงมาตามเนื้อตัว มือของไคลูบไล้ไปตามผิวกายขาวละเอียด ลงต่ำไปถึงสะโพก ก่อนกางเกงวอร์มตัวหนาของเขาจะถูกกระตุกเชือกออก


นิ้วเรียวเกี่ยวกางเกงเจ้าปัญหาลงไปวางไว้ที่พื้น เซฮุนชันขาขึ้นเมื่อความหนาวเหน็บแผ่กระจายไปทั่วผิวกาย และหลังจากนั้นไม่กี่วินาที ไคก็จัดการตัวเองจนพวกเราสามารถจ้องตากันในสภาพเปลือยเปล่า ไร้ซึ่งพันธนาการใดๆปกปิด


ริมฝีปากอุ่นแตะลงที่หน้าท้องของเขา ลากไล้แสดงความเป็นเจ้าของไปทั่วทุกอณาบริเวณ ลงต่ำไปที่ต้นขาด้านใน ข้อพับ เข่า และข้อเท้า กายบางหอบหายใจถี่ อ้าเเขนออกกว้างเพื่อออดอ้อนพ่อตัวเองให้โน้มใบหน้าลงมาหา และไคก็ทำตามคำร้องของเขาด้วยการประกบริมฝีปากลงมาอย่างอ้อยอิ่ง


เกลียวลิ้นร้อนทั้งสองพันเชื่อมกันราวกับเป็นสะพานข้ามไปยังเมืองเเห่งความสุข ไม่หลุดขาดออกจากกันแม้คนตัวขาวจะถูกมือหนาดันเรียวขาให้แยกออก ก่อนความเจ็บแปลบจากการถูกก้านนิ้วแทรกเข้ามาในร่างกายจะเข้ามาแทนที่


เซฮุนร้องครางอื้ออึงในลำคอ มันรู้สึกดีอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่มันล้วนมีแต่ความเจ็บ แต่เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นว่าไคจูบปลายจมูกอย่างอ่อนโยนก็พลันลืมทุกสิ่งเสียจนอีกฝ่ายสามารถขยายช่องทางเขาได้ถึงสามนิ้วในที่สุด


เเขนเรียวสองข้างของเขายังคงโอบล้อมลำคอของอีกฝ่ายเอาไว้ ไล่สายตามองตั้งแต่ดวงตานิ่งสนิท จมูกทู่ ริมฝีปากนุ่มหยุ่นที่บวมเจ่อเล็กน้อยจากฝีมือการขบดึงของเขา คางเรียว สันกรามคม ลำคอยาวระหงส์ ไหปลาร้าที่เด่นชัด แผงอกและหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อไร้ซึ่งไขมันส่วนเกิน และผิวแทนที่เขย่าหัวใจเขาให้เละไม่เหลือซาก


ไคกดแนบริมฝีปากลงมาอีกครั้ง ดูดดึงขบเม้มอย่างอ่อนโยนและเอาใจ เซฮุนเคลิบเคลิ้มจนหลับตาลงสนิท แต่ก็ต้องจิกเล็บทุกนิ้วลงกับไหล่กว้าง เมื่อมีสิ่งที่ใหญ่กว่านิ้วเมื่อครู่สอดใส่เข้ามาในร่างกายเขาเเทน


คนตัวขาวละใบหน้าออกมา กัดริมฝีปากตัวเองแน่นทั้งที่ไคยังมองเขาอยู่ในระยะไม่ถึงสิบเซนติมเตร สายตาคู่นั้นฉายแววห่วงใยชัดเจน ชัดเสียจนเซฮุนต้องหลุบตาลงต่ำหนีการจดจ้องสุดแสนอันตรายที่จะทำให้เขาหลงเข้าไปในนั้นจนหาทางออกไม่เจอ


ใช้เวลานานพอตัวกว่าความเจ็บที่เกิดขึ้นจะหายไป เเปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกที่ทำให้เขาต้องร้องครางอื้ออึงในลำคออย่างแผ่วเบา สะโพกแกร่งขยับอย่างเนิบนาบและเชื่องช้าเพราะกลัวว่าเขาจะเกิดอาการเจ็บปวด 


ใบหน้าของเราดึงดูดเข้าหากัน ริมฝีปากแนบชิดจนไร้ซึ่งช่องว่าง รวมถึงลิ้นร้อนที่ตวัดเข้ามาเก็บเกี่ยวทุกความรู้สึกในโพรงปากเขาไปจนหมด ไคโอบล้อมรอบแผ่นหลังเขาเอาไว้ และเขาเองก็ตอบรับสัมผัสอบอุ่นที่ไคมอบให้ผ่านการโอบรอบลำคออีกคนให้แนบกายบดเบียดแผงอกลงมาที่ตัวเขา


ร่างกายของเราสองคนสั่นสะท้านไปตามแรงส่ง หมอนใบโตที่เคยอยู่ข้างตัวพลันตกลงกับพื้นเมื่อเตียงสั่นจากการขยับ เเต่ไม่มีใครในห้องเล็กๆนี้ที่คิดจะผละร่างกายออกจากกันเพื่อโน้มตัวลงไปเก็บเลยสักนิด กลับกันแล้วเรายังโหยหากันและกันมากขึ้น ตามแรงปะทุของอารมณ์กระสันต์


ไคผละใบหน้าลงไปหยอกล้อกับซอกคอของเขา ดูดดึงขบเม้มจนเซฮุนคิดว่ามันอาจจะเกิดรอยแดงในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า คนตัวขาวกัดริมฝีปากกลั้นเสียงแน่นเมื่อตอนนี้ริมฝีปากเขาว่าง แต่เขาก็ทนไม่ไหว ในเมื่อความรู้สึกเสียวซ่านในท้องมันทำให้อยากจะตะโกนออกมาดังๆเสียเหลือเกิน


"อะ...พ่อ....พ่อไค"


เซฮุนทาบทับมือลงกับแผงอกแกร่ง จิกลงไปจนเกิดรอยแดงเมื่อรับรู้ถึงแรงกระแทกที่ถูกส่งเข้ามาแรงมากกว่าเมื่อครู่ ไคโน้มใบหน้าลงมาบดเบียดริมฝีปากใส่เขาอีกครั้งเมื่อเสียงของเขากำลังจะทำให้ทุกคนในบ้านตื่น ร่างหนาสอดแขนเข้าใต้ร่างเขาเคลื่อนมือไปที่ท้ายทอย ประคองร่างกายของเขาให้อยู่ใต้อาณัติอย่างเต็มรูปแบบ สวนสะโพกเข้ามาอย่างรวดเร็วจนสุดท้ายเราสองคนก็ต้องนอนหอบเหนื่อยด้วยกันทั้งคู่พร้อมกับความอุ่นร้อนที่ฉีดเข้ามาภายในตัวเข้าจนหมดสิ้น


ไคยันตัวขึ้นนั่ง ช้อนร่างกายของเขาให้นั่งลงบนสะโพกทั้งที่เราสองคนยังคงเชื่อมและเป็นหนึ่งเดียวกันอยู่ เซฮุนตวัดขาเรียวโอบล้อมไปจนถึงแผ่นหลังกว้าง รวมถึงแขนของเขาที่โอบรอบคอของไคจนใบหน้าของเราสองคนอยู่ใกล้แนบชิด


คนตัวขาวโน้มจมูกลงแตะจมูกอีกฝ่าย ปล่อยให้หน้าผากมนถูไถกันไปมาถ่ายทอดความอบอุ่นให้กันและกัน คลอเคลียเคล้าคลึงและจดจ้องดวงตากันและกันอย่างโหยหาอยู่แบบนั้น และในที่สุดริมฝีปากเราก็แนบเข้าหากันอย่างเชื่องช้า ดูดดึงกลีบปากให้บวมเจ่ออย่างไม่มีใครยอมใคร



ไคลูบไล้มือหนาไปตามแผ่นหลังของเขา ก่อนเปลี่ยนเป็นการเคล้นคลึงที่สะโพกมน ยกร่างกายของเขาขึ้นอย่างง่ายดายเพราะความแข็งแรง เล่นเอาคนตัวขาวต้องร้องครางเมื่อร่างกายถูกสอดใส่เข้ามาอย่างลึกซึ้งมากกว่าเดิม


เราจูบกันนานขนาดไหนไม่มีใครรู้ แต่ความอบอุ่นจากร่างกายของไคสามารถบรรเทาความเหน็บหนาวของเขาได้แม้พวกเราจะเปลือยเปล่ากันทั้งคู่ และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความบาปที่เกิดขึ้นอีกมันเริ่มจากใครก่อน เซฮุนรับรู้แค่เพียงอย่างเดียว คือไคโอบกอดเข้าเอาไว้ทุกท่วงท่า ฝ่ามือของเราสัมผัสกันอย่างแนบแน่น พร้อมกับเสียงทุ้มที่หลุดครางเรียกเขาเป็นบางครา


"อา...เซฮุนนา"


แค่นั้นมันเพียงพอแล้วสำหรับคนเงียบขรึมแบบพ่อของเขา เพราะมันทำให้เซฮุนรู้แล้ว ว่าไคต้องการเขามากแค่ไหน และเขาเอง ก็ต้องการไคไม่น้อยไปกว่ากันเลยสักนิด