40+++++++
ขออนุญาตระบายความโมโหลงกับเอ็นซีบทนี้…
Black hair
ชั่ววูบ
สติหลุด
จงอินผมดำหล่อมาก
โมโหที่บ้านไฟดับแล้วน้ำก็ไม่ไหลด้วย
#affkaihun
"อยู่นิ่งๆจะได้ไหม"
น้องเล็กของวงกลอกตาไปมา อยากจะจับคิมจงอินให้นั่งนิ่งๆเลิกยุกยิกเสียเหลือเกิน ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้มือเขาเลอะสีย้อมผมเต็มไปหมด
แล้วมันเรื่องบ้าอะไรกันกับการที่คิมจงอินนึกครึ้มอยากจะย้อมผมกลับทั้งที่กัดเสียจนจะเป็นจะตายตอนแรก พอคิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ผู้ชายคนนี้ตีหน้ามึนดีเสียยิ่งกว่าเจ้ามงกูเสียอีก
"ก็นิ่งอยู่"
"นิ่งที่ไหนล่ะ อย่าทำให้ฉันโมโหสิ"
โอเซฮุนปาดสีย้อมผมลงไปจนตอนนี้มันเกือบจะครบทั้งหัวแล้ว แน่นอนว่ากลิ่นมันลอยคลุ้งไปทั่วหอจนพี่แบคฮยอนถึงกับเดินออกมาตะโกนย่าห์ๆๆๆใส่เป็นสิบๆรอบ ส่วนเขาก็ได้เพียงแต่ชี้ไปทางคิมจงอินและบอกให้พวกพี่โทษคนผิวแทนเท่านั้น เซฮุนจะไม่เข้าไปอยู่ในขบวนการสร้างกลิ่นรบกวนนี่เด็ดขาด
"ก็นั่งมาตั้งนานแล้ว เมื่อย" คนผิวแทนเงยหน้าขึ้นมองเขาที่ยืนซ้อนหลังอยู่ "อยากขยับตัวจะแย่..." และใบหน้าคมก็ถูกมือของเขาดันให้หันกลับไปทางเดิม
"ทนสิ ใครกันล่ะที่บอกอยากจะเปลี่ยน"
แล้วอีกเรื่องนึงที่หงุดหงิดคือการที่จงอินมาเคาะห้องเขา ทำหน้ามึนใส่แล้วบอกว่าอยากย้อมผมทั้งที่ตอนนี้มันก็ตีสอง ดีหน่อยที่พรุ่งนี้มีงานประมาณบ่าย ไม่อย่างนั้นเขาจะเคาะหัวหมอนี่ด้วยไม้กวาดสักด้าม
"ก็คนแถวนี้บอกว่าคิดถึงผมดำ"
"ใคร"
เซฮุนชะงักมือไปเล็กน้อย แต่ก็ยังคงทำทีปากแข็งปาดสีลงบนผมต่อไป หยิบกิ๊บเหล็กของพี่แบคฮยอนขึ้นมาหนีบเอาไว้เพื่อให้มันไม่หยดลงมาเลอะเทอะ แล้วผละออกมายืนมองผลงานตัวเองเมื่อตอนนี้ไม่เหลือพื้นที่ผมสีบลอนด์เป็นหย่อมๆเหมือนเมื่อครู่ให้รำคาญใจอีกต่อไป
โอเค เขาพูดเองนั่นแหละเรื่องที่คิดถึงคิมจงอินตอนผมดำ ก็ตอนนี้หมอนี่ฮอตปรอทแตกจนเวทีจะพัง แฟนคลับกรี๊ดกันเหลือเกิน อยากจะจับมามัดจุกเป็นพุดเดิ้ลไปเลย ดูซิสาวๆยังจะกรี๊ดกันอีกไหม
เรื่องราวมันคงจะจบลงแล้วถ้าหากคิมจงอินไม่ระบายรอยยิ้มมุมปาก ละสายตาจากหนังสือถามตอบที่เคยเอาไปใช้ในวีแอพกับแฟนคลับแล้วพลิกใบหน้ามามองเขาที่ยืนอยู่ข้างหลังแทน คนตัวขาวขมวดคิ้วกลับไป พอจะเดินไปล้างมือก็ดันโดนดึงชายเสื้อเอาไว้ก่อน
"ไม่ชอบเหรอ"
"ชอบอะไร"
"ผมดำไง"
"ก็ไม่ได้บอกว่าไม่ชอบนี่" เซฮุนกลอกตามองเพดาน
"ก็เห็นบ่น ก็เลยให้ย้อมกลับให้"
"ฉันบ่นตอนไหน?"
"เมื่อคืน ตอนที่เรากำลังมีอะ-"
"หยุด! ห้ามพูดมันออกมา"
โอเซฮุนชี้หน้าคมด้วยนิ้วตัวเองจนปลายนิ้วเกือบกระแทกเข้าลูกตาอีกฝ่าย ให้ตาย คิมจงอินจะขยันทำให้เขาหน้าร้อนไปถึงไหนกัน มันใช่เรื่องเหรอที่จะมาพูดเรื่องน่าอายแบบนั้นทั้งที่ีนั่งอยู่ตรงห้องนั่งเล่นด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์ พี่แบคฮยอนกับพี่จงแดก็ป้วนเปี้ยนไปมาอยู่ตลอดแบบนี้ ถ้าใครมาได้ยินเข้าจะทำยังไงกันเล่า
"ทำไมล่ะ"
"คิมจงอิน!"
เสียงเป็ดเอ่ยอย่างหัวเสีย อันที่จริงก็แกล้งหงุดหงิดกลบเกลื่อนความเขินอายในตัวไปเท่านั้น สุดท้ายก็ต้องสะบัดตัวเองออกจากมือหนาแล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างมือแล้วเดินผ่านคิมจงอินกลับห้องพี่จุนมยอนไปเลย จะปล่อยให้นั่งอยู่ตรงนั้นจนกว่าผมจะแห้งแข็งเลยคอยดู กล้าดียังไงมาพูดจาทะลึ่งตึงตังแบบนั้นใส่เขา
มือบางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเช็คนู่นนี่นั่นไปเรื่อย จนเวลาผ่านไปสิบนาทีแล้วก็ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง ก็เลยตัดสินใจกดเข้าอินสตราแกรมเพื่ออ่านคอมเม้นท์แฟนคลับฆ่าเวลา จริงๆเขาจะปล่อยให้คิมจงอินไปล้างออกเองก็ได้ แต่ลึกๆก็อยากเห็นเหมือนกันนะว่าถ้ากลับมาผมดำแล้วจะเป็นยังไง จะดูเด็กเหมือนเมื่อก่อน หรือจะฮอตปรอทแตกยิ่งกว่าตอนผมบลอนด์
พอรู้ตัวว่ากำลังจินตนาการภาพคิมจงอินผมดำมากไปก็เลยต้องส่ายหน้าไล่ หันไปขำให้กับคอมเม้นท์ของบางคนที่ส่งอะไรมาแบบตลกๆ จนเสียงประตูห้องถูกกระชากเปิดดังขึ้นเซฮุนจึงละใบหน้าออกจากหน้าจอ
พี่จุนมยอนนั่นเองที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเหนื่อยๆ เห็นว่ากลับบ้านไปหาคุณแม่มาแล้วก็กลับมาที่หอต่อเพราะพรุ่งนี้มีงานเลยอยากออกไปพร้อมๆกันหรือยังไงเนี่ยแหละ ลีดเดอร์ผิวขาวทิ้งตัวลงนั่งที่ปลายเตียงคู่ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คตารางงานแล้วเอ่ยชวนเขาคุยถึงเรื่องหนัง CAT MAN ที่ถ่ายทำไป
ซึ่งเซฮุนก็ตอบอย่างไม่อิดออดจนลืมเวลา หันไปดูนาฬิกาอีกทีก็พบว่ามันเกือบจะห้าสิบนาทีเข้าไปแล้ว ให้ตายสิ ป่านนี้คิมจงอินจะหลับคาห้องนั่งเล่นไปหรือยัง สุดท้ายก็เลยถูกพี่จุนมยอนไล่ให้ออกไปดูเมมเบอร์ที่อายุเท่ากันหน่อยว่าป่านนี้ยังไม่สัปหงกคอพับจนสีย้อมผมเลอะโซฟา
แต่พอออกไปเขากลับไม่พบคิมจงอินที่ควรจะนั่งอยู่ที่โซฟาแล้ว ก็เลยคิดเองเออเองว่าหมอนั่นคงจะอยู่ที่ห้องน้ำหนึ่งในสองห้องของหอเราแน่ คิดได้ดังนั้นก็เลยเดินไปที่ห้องน้ำที่ใกล้กับห้องพี่ชานยอลก่อน แต่ไฟมันถูกปิดอยู่ โมเมเอาเองเสร็จสรรพว่าไม่มีคนแน่ ก็เลยเดินไปที่ห้องน้ำอีกห้องหนึ่งที่อยู่ข้างห้องพี่แบคฮยอน
พวกเราไม่เคยล็อคประตูเวลาอาบน้ำ เพราะยังไงข้างในก็มีประตูกระจกขุ่นกั้น มันคืออีกกฎที่พี่แบคฮยอนตั้งขึ้นมาตอนโมโหว่าอยากแปรงฟันแต่พี่มินซอกดันล็อคห้องน้ำ ซึ่งเขาเองก็ต้องทำตามอย่างบ้าคลั่งเพราะไม่อยากเห็นพี่แบคฮยอนทุบตีประตูอย่างเกรี้ยวกราดอีก และอีกอย่าง พวกเราทุกคนก็เป็นผู้ชาย หอนี้ห้ามมีผู้หญิงอยู่แล้ว คงไม่แปลกที่เราจะไม่ระวังตัวเหมือนอยู่ในโรงเรียนชายล้วนแบบนี้
เซฮุนผลักประตูเปิดเข้าไปอย่างเชื่องช้า แสงไฟในห้องน้ำทำให้เขาเห็นเงาคนอยู่ในประตูกระจกกั้น รวมไปถึงเสียงน้ำไหลซ่าคืออีกหนึ่งอย่างที่ยืนยันว่านั่นคือคิมจงอินไม่ผิดแน่ เสื้อผ้าของหมอนั่นถูกถอดกองเอาไว้ที่หน้ากระจก โอเซฮุนจึงยืนพับมันอยู่ตรงนั้นแล้วเอาไปหย่อนลงตะกร้าเพื่อเตรียมเอาไปซัก
"ถ้าจะยืนอยู่ตรงนั้น ก็เข้ามาในนี้เลยดีไหม"
"จะบ้าหรือไง"
"ช่วยหน่อย น้ำมันยังเป็นสีดำอยู่เลยเซฮุนนา..." เซฮุนเผลอชะงักเมื่อเสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยออดอ้อนเขามาจากด้านใน "นะ ที่รัก"
ขาเรียวก้าวเข้าไปใกล้ชิดกระจกอย่างเชื่องช้าเมื่อแพ้ให้กับมารยาของคนผิวแทน เขาก็แค่อยากช่วยเท่านั้น ไม่ได้มีสาเหตุอื่นหรืออะไร มือบางเอื้อมไปจับที่ผลักประตู มันสั่นเสียจนเกือบไม่มีเเรง แค่มองจากเงาเขาก็รู้ รู้ว่าคิมจงอินคงยืนเปลือยร่างกายสมส่วนอยู่ในนั้น ทั้งที่เคยเห็นมาไม่รู้กี่ครั้ง แต่ก็ใจสั่นทุกครั้งที่ได้เห็นผิวสีแทนเวลาไม่มีอะไรปิดบัง
คนด้านในช่วยเขาดึงประตูจนมีพื้นที่พอจะให้แทรกตัวเข้าไปได้ เซฮุนจึงเสหน้ามองไปอีกทาง ก้าวเข้าไปด้านในโดยไม่ลืมยกขาให้พ้นขอบกระเบื้องที่กั้นเอาไว้กันน้ำไม่ให้ล้นออกไป คิมจงอินหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางประหม่าของเขา และมันทำให้คนปากแข็งแบบโอเซฮุนถึงกับหันไปตวัดตาใส่
แต่มันคือสิ่งที่เขาทำผิดพลาดที่สุดในชีวิต ในเมื่อภาพแผ่นหลังและบั้นท้ายเปลือยเปล่าสีแทนยืนอยู่ท่ามกลางสายน้ำที่รินรดตั้งแต่เรือนผมดำลงมาจนเปียกลู่ พาสีย้อมผมสีเข้มไหลลงมาตามกระดูกสะบัก ไหลเทิ้มมาตามร่องสันหลังจนไปถึงสะโพกแบนราบเรียบ เรียวขาแน่น ไปจนถึงปลายนิ้วเท้าที่เรียงตัวอย่างสวยงาม
โอเซฮุนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เมื่อเห็นว่าคิมจงอินทำเพียงแค่ยืนเกาะกำแพงภายใต้สายน้ำก็เกิดนึกหมั่นไส้ เงยหน้าขึ้นไม่ให้มองต่ำไปมากกว่านั้นแล้วตรงเข้าไปสอดมือเข้าที่กลุ่มผมตรงท้ายทอย เสียงคนผิวแทนหัวเราะทำให้เขาเขินจนหน้าแดง เรียกให้มือบางอีกข้างเผลอยกขึ้นฟาดหลังจงอินจนขึ้นสีแดงเป็นริ้ว
"อ่า เจ็บ จัง~"
เสียงทุ้มทั้งกระเส่า แหบพร่า และเย้ายวนจนเซฮุนต้องกัดริมฝีปากแน่น มือของเขาทั้งสองข้างยังขยุ้มและขยี้ไปตามกลุ่มผมสีดำที่เปียกน้ำ จากน้ำที่ไหลผ่านกลุ่มผมเป็นสีดำ จนตอนนี้เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีใสมากขึ้นเรื่อยๆ พอๆกับที่ร่างกายของเขาเปียกเสียจนเห็นอะไรต่อมิอะไรภายใต้เสื้อยืดสีขาวบางทีเอาไว้ใส่นอนเกือบหมด
คิมจงอินใช้มือตัวเองเสยผมมาด้านหลัง หมอนั่นจงใจลากนิ้วร้อนแตะลงที่ปลายนิ้วของเขา ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นการดึงมือเขาไปหาใบหน้าตัวเอง เพราะแรงดึงจึงทำให้โอเซฮุนต้องขยับเข้าไปใกล้ร่างหนามากขึ้น เผลอยันมือลงกับแผ่นหลังคิมจงอินอัตโนมัติเมื่อแผ่นอกบางกำลังจะทาบทับลงไป ซึ่งเขาเองก็ไม่อยากจะเปียกมาก มันทั้งหนาว และก็ยังน่าอาย
คนผิวแทนดึงมือเขาไล้ไปตามใบหู สันกราม จนปลายนิ้วของเขาสัมผัสได้ถึงความนุ่มและอุ่นร้อนจากปลายลิ้นชื้นแฉะ สายน้ำยังคงเป็นสิ่งปลุกเร้าความร้อนในร่างกายให้เพิ่มพูนเมื่อมันสร้างความเย็นจนบาดผิว
"จะ...จงอิน"
โอเซฮุนสั่นเมื่อปลายนิ้วของเขาถูกขบเม้มจากฟันคม ลิ้นร้อนตวัดรอบที่ปลายเล็บพร้อมกับการดูดดึงอย่างหยอกล้อ เขาจิกมืออีกข้างลงกับหลังสีแทนอย่างแรงพร้อมกับการซบหน้าผากลงไปบนไหล่กว้าง ไม่สนใจอีกแล้วว่ามันจะเปียกมากมายขนาดไหน จะให้เขายืนโชว์หน้าแดงๆให้คิมจงอินเห็นผ่านหางตาเหรอ ไม่มีทางเสียหรอก
"อยากเห็นจัง"
"อะ...อะไร"
"ใส่เสื้อสีขาวอยู่ไม่ใช่เหรอ"
คนผิวแทนมองผ่านไหล่ตัวเองมาด้านหลัง สันกรามขึ้นเด่นชัดจนเซฮุนต้องเสมองไปทางอื่นเพื่อสงบเสียงหัวใจของตัวเอง ริมฝีปากหนาพรมจูบลงที่อุ้งมือของเขา ลากมาที่ข้อมือ ขึ้นสูงมาเรื่อยๆจนไม่สามารถแตะต้องได้ถึงอีก
เซฮุนพยายามจะชักมือกลับ แต่ก็ทำแบบนั้นไม่ได้จึงต้องปล่อยให้มือหนาประสานนิ้วเขาไว้จากหลังมือ ร่างกายตอนนี้เปียกชื้นเสียยิ่งกว่าการกระโดดลงสระว่ายน้ำ ขากางเกงเริ่มชุ่มน้ำจนเปียกหนัก คนตัวขาวสูดลมหายใจเข้า เอ่ยตอบคำถามจากคิมจงอินเมื่อครู่ด้วยเสียงสั่น
"ใช่"
แต่คิมจงอินก็ทำให้เขาสั่นหนักกว่าเก่า เมื่อดวงตาเรียวช้อนขึ้นจากข้อมือมาจดจ้องเข้าที่ดวงหน้าขาว ในนั้นมีแต่อานุภาพทำลายล้าง เล่นเอาร่างกายของเซฮุนอ่อนยวบยาบไปตามแผ่นหลังสีแทน
"อยากเห็นตอนเปียกจังเลยเซฮุนนา..."
"จะบ้าหรือไง"
"นะ..."
"จงอิน"
"นะครับ ที่รัก"
โอเซฮุนเม้มริมฝีปากแน่น เขาพ่ายแพ้เสียทุกครั้งกับการที่คิมจงอินใช้เสียงทุ้มที่แหบพร่ากระซิบใส่ใบหู พ่ายแพ้อย่างราบคาบเสียจนพาตัวเองแทรกกายบางไปยืนที่ด้านหน้าอีกคนอย่างเชื่องช้า คิมจงอินเบาน้ำจากฝักบัวเพื่อไม่ให้มันกระแทกลงบนผิวหน้าเขา แล้วก้มหน้าลงมาจ้องตาใสเเทน
ร่างบางยกมือขึ้นกอดตัวเองเมื่อตอนนี้เสื้อสีขาวเปียกแนบลู่ไปหมด เรียกให้คนผิวแทนลากสายตามองอย่างหื่นกระหาย ก่อนมือของเขาจะถูกอีกคนแกะออกจากอกแล้วทาบทับลงไปบนกำแพงเย็นเฉียบ
คิมจงอินแทรกกายหยาบเข้ามาในสายน้ำ จดจ้องใบหน้าของเขาที่ไม่รู้ว่าตอนนี้มีสภาพเป็นยังไง น้ำที่ไหลลงมาจะช่วยบดบังความแดงจองมันได้บ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้
"ขาว" โอเซฮุนพลิกใบหน้าหนีเมื่อใบหน้าคมแทรกลงมาที่ซอกคอ กำมือคิมจงอินแน่นในตอนที่ฟันคมขบเม้มลงมาแผ่วเบา "หอมด้วย"
"อย่าทำรอยนะ พรุ่งนี้ไปอินกิฯ"
"หืม?" คนผิวแทนชะงักในตอนที่ลากลิ้นร้อนลงบนซอกคอของเขา "แสดงว่าข้ามขั้นไปทำอย่างอื่นได้เลยใช่ไหม?"
ไม่มีคำตอบจากคนผิวขาว เซฮุนทำได้เพียงแค่กำมือลงกับมือตัวเองเเน่น เมื่อมือหนาลูบไล้ลงไปในชายเสื้อบีบเค้นเนื้อตัวของเขาอย่างเมามันส์ ริมฝีปากหนาจูบไล้ไปตามซอกคอ ไหปลาร้า อกบาง จูบผ่านเสื้อยืดสีขาวทิ้งร่องรอยความร้อนเอาไว้เป็นจุดๆ
“อื้อ...”
เซฮุนกัดฟันกลั้นเสียงสุดชีวิตเมื่อจงอินสอดมือเข้าไปในกางเกงวอร์ม เคล้นคลึงสะโพกกลมของเขาด้วยแรงทั้งหมดที่มี ลากนิ้วไปยังร่องตรงกลาง ตวัดลูบไล้ไปตามช่องทางอุ่นร้อน กดดุนดันเข้าไปนิดหน่อยเล่นเอาคนตัวขาวต้องแอ่นกายรับ
มือที่เคยกำอยู่เเปรเปลี่ยนเป็นการจิกลงบนไหล่หนา จงอินถลกกางเกงวอร์มเขาลงด้วยมือสองข้าง ภายในครั้งเดียวมันก็ร่นลงไปถึงข้อเท้า เผยความขาวเนียนละเอียดของผิวกายที่คนผิวแทนชมนักชมหนาว่าสวยเหลือเกิน
เซอุนหลุบตามองอีกฝ่ายที่คุกเข่าลงตรงหน้าเขา มือของโอเซฮุนไปไม่ถึงไหล่กว้างอีกต่อไป ถ้าจะให้เขาทำอะไรสักอย่างคงจะเป็นกลุ่มผมสีดำที่ถูกมือหนายกขึ้นมาเสยปาดไปด้านหลัง และท่าทางแบบนั้นทำเอาหัวใจของเขาสั่นแกว่งไกว สั่นเสียจนต้องกัดริมฝีปากแน่นยิ่งกว่าเดิม มันยิ่งกว่าตอนที่คิมจงอินเต้นในน้ำที่คอนเสิร์ตเสียอีก เพราะตอนนี้โอเซฮุนสามารถมองมัดกล้ามเป็นลอนที่หน้าท้องอีกฝ่ายชัดเจน ชัดมาเสียจนอยากตะกุยด้วยมือให้ขาดวิ่น
คิมจงอินเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ เซฮุนอายจนอยากพลิกตัวหนีแต่ก็ทำไม่ได้ในเมื่อจงอินจับข้อเท้าเขาเอาไว้มั่น คนผิวแทนจับมันแยกออกจากกันจนร่างเขาเกือบเซล้ม
เซฮุนเบิกตากว้างเมื่อใบหน้าคมแหงนขึ้นภายใต้ช่องว่างระหว่างขาของเขา ก่อนจะต้องจิกลงบนกลุ่มผมสีดำแน่นเมื่อปลายลิ้นร้อนตวัดแตะลงที่ช่องทางด้านหลัง
เขาต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหนกันในการกลั้นเสียงครางไม่ให้หลุดออกไป ขนาดแค่พี่แบคฮยอนร้องเพลงตอนอาบน้ำเขายังได้ยินทั้งที่ห้องนอนอยู่ไกลจากตรงนี้ไปอีกตั้งเยอะ แต่ห้องน้ำนี่อยู่ติดกับห้องพี่แบคฮยอน ถัดไปก็เป็นห้องพี่จงแดกับพี่มินซอก แถมห้องพี่ชานยอลก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลอีก แกงค์บีเกิ้ลต้องเก็บเอามาล้อแน่ถ้าหากได้ยิน
คนตัวขาวเชิดหน้าเมื่อคิมจงอินถ่มน้ำลายใส่มือตัวเอง สอดแทรกก้านนิ้วเรียวเข้ามาทีเดียวจนสุด ไม่ไถ่ถามเขาสักคำว่าเจ็บหรือไม่เจ็บ จะส่งเสียงร้องตะโกนก็ทำได้แค่เพียงเล่นละครใบ้กับฝ่ามือ
จงอินควงนิ้ววนไปมาจนขาเขาเกือบอ่อนเเรง แต่มือหนาอีกข้างก็พยุงเขาเอาไว้โดยการช้อนสะโพก เซฮุนกำเสื้อตัวเองขึ้นมากัดเอาไว้แน่น อย่างน้อยถ้าตอนนี้มีอะไรปิดปากเขาไว้หน่อยก็ยังดี ไม่รู้ตัสเลยสักนิดว่าภาพนั้นมันเซ็กซี่จนทำให้ใจคนผิวแทนสั่นขนาดไหน
“อื้อ...อือ”
คนผิวแทนยังคงตวัดนิ้วเข้ามาไม่หยุด จากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสาม แกล้งถ่างออกเล็กน้อยเพื่อขยายช่องทางเป็นบางครั้ง แถมยังงอนิ้วด้านในให้เขาต้องหลับตาแน่นพร้อมสูดปากครางอีกต่างหาก
บ้าที่สุด! มันบ้าไปหมด ร้อยวันพันปีหมอนี่ไม่เคยลามกมากขนาดนี้มาก่อน แล้ววันนี้มันอะไรกัน ผมสีดำเเล้วรสนิยมเปลี่ยนงั้นหรือไง!
“จงอิน เบาหน่อย...”
คนผิวแทนหัวเราะร่า กดจูบลงบนหน้าขาเขาแล้วส่งริมฝีปากเข้าครอบครองส่วนกลางลำตัวด้วยหน้ามึนๆ
“เดี่ยว...อา...พี่ๆได้ยิน”
เซฮุนขยุ้มมือลงบนเส้นผมเปียกชื้นจนเกือบเรียงได้ว่าดึงทึ้ง แผ่นหลังแอ่นเเนบชิดกับกำแพงพร้อมแอ่นสะโพกรับสัมผัสวาบหวาม ลืมความขลาดอายก่อนหน้านี้ไปจนหมด ถึงแม้ว่าคิมจงอินจะช้อนตามองเขาอยู่ก็ตามที
“อะ...”
ร่างบางบิดเร้าเมื่อถูกปรนเปรอให้พร้อมกันทั้งสองทาง ความรู้สึกพลุ่งล่านจนอยากจะได้อะไรที่มันมากกว่านี้ ดีกว่านี้ เร้าใจมากกว่านี้ เรียกสติให้มือบางต้องรีบผลักศรีษะคิมจงอินออกไปให้พ้นจนก้านนิ้วเรียวหลุดออกมาจากโพรงอุ่นร้อน ริมฝีปากคายเสื้อเปียกชื้อที่คาบอยู่ออกจนมันตกลงไปค้างอยู่ที่อก
“แฮ่ก...ไม่...ไม่ไหวแล้ว”
“หืม?”
ร่างหนาหยัดตัวลุกขึ้นจากพื้น จ้องมองใบหน้าเขาในระยะใกล้จนอะไรๆเรามันแตะโดนกันไปเสียหมด คนตัวขาวคล้องลำคออีกฝ่ายอย่างลืมตัว พร้อมกับการแนบหน้าผากเข้าหากัน
เกลียวลิ้นร้อนถูกตวัดโลมเลียกันจากภายนอก ดูดดุนจนสุดท้ายริมฝีปากของพวกเราก็แตะกันในที่สุด
จงอินใช้มือหนายกสะโพกเขาให้เขย่งปลายเท้าขึ้น ก่อนเรียวขาวยาวราวกับนางแบบจะตวัดโอบรอบสะโพกแกร่งอย่างรู้งาน เซฮุนถูกดันจนแผ่นหลังแนบชิดกำแพงทุกตารางนิ้วโดยมีมือทั้งสองข้างของจงอินช่วยพยุงเขาไว้เป็นฐาน
ให้ตาย นี่มันน่าอายเป็นบ้า แต่ก็โคตรจะเร้าใจเลย
“ใส่...เข้ามา...”
“ใจร้อนจังครับที่รัก”
คิมจงอินมองเขาด้วยสายตาแพรวพราว เราผละออกจากกันแค่ไม่กี่เซนติเมตร จนสามารถเห็นภาพใบหน้าเปียกชื้นของกันและกันผ่านม่านตาของอีกฝ่ายได้ชัดเจน
“เดี๋ยวนี้!”
จงอินยกยิ้มมุมปากเมื่อเขาเสียงดังใส่จนเกือบตวาด เสียงทุ้มหัวเราะหึในลำคออย่างขบขันกับท่าทางดิ้นเร่าๆเป็นลูกเจี๊ยบของเขา แก้มก้นขาวถูกมือหยาบแหวกออก ก่อนส่วนปลายที่มีเเต่ความเเข็งขืนจะจดจ่อและดุนดันเข้ามาภายในโพรงอุ่นร้อน
เซฮุนก้มหน้าบังคับจิตและลมายใจให้มันสงบให้มากที่สุด รู้สึกเจ็บเป็นบ้าแต่ก็ต้องยอมรับว่ามันรู้สึกดีเสียยิ่งกว่าบนเตียง คิมจงอินดันเข้ามาจนสุด และมันลึกยิ่งกว่าเดิมเมื่อคนผิวแทนกระเตงตัวเข้าขึ้น
“อ้ะ...”
“อา...ลึกกว่าเมื่อวานอีก”
เซฮุนนิ่วหน้าเมื่อสะโพกแกร่งเริ่มขยับ พยายามเกาะไหล่คิมจงอินเอาไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองตกลงไป อยากจะกระโดดลงไปยืนดีๆเหมือนกัน แต่ติดที่ว่าทำแบบนี้แล้วมันรู้สึกดีจนอยากจะกรีดร้อง
“นี่...อะ...พี่แบคฮยอน...จะได้ยินไหม”
“ตีสาม...”
“อะ...อา”
“ตีแอลอยู่มั้ง”
เซฮุนสั่นคลอนไปตามแรงกระแทก แผ่นหลังเสียดสีกับกำแพงจนเกิดความแสบ หยาดน้ำที่ไหลผ่านตัวเราทั้งคู่ไม่ได้ช่วยลดเเรงแสียดทานเลยสักนิด มันแค่ส่งเสียงซู่ซ่าช่วยกลบเสียงเนื้อกระแทกกันอยู่เท่านั้น
“แล้ว...แล้วพี่ชานยอล”
“เปิดเพลงดังขนาดนั้น ไม่ได้ยินหรอก...”
“อ้ะ...ตรงนั้น...”
โอเซฮุนจิกไหล่กว้างเมื่อคิมจงอินสวนกระแทกเข้ามาโดนจุดรวมความรู้สึกในร่างกาย อยากจะหาอะไรมาอุดปากให้รู้แล้วรู้รอดแต่มองไปก็เจอแต่ขวดครีมอาบน้ำ และเขาคงไม่บ้าพอจะเอามันมาใช้
“ครางออกมาเถอะครับที่รัก...” คนตัวขาวลืมตาที่ปิดสนิทขึ้นเมื่อเสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยข้างหู ขนลุกชูชันเมื่อคิมจงอินตวัดลิ้นร้อนเลีบใบหูอย่างหยอกล้อ “...เรียกชื่อฉัน ดังๆ”
“อา...จงอิน”
โอเซฮุนหลับหูหลับตาแน่น ทำตามที่อีกฝ่ายบอกเพราะควบคุมสติไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว ร่างกายเริ่มเกร็งเป็นส่วนๆ เริ่มจากสะโพก ไล่ลงไปที่ปลายเท้า ไล่ขึ้นมาที่หน้าท้อง หน้าอก และปลายแขน จนสุดท้ายเขาก็ปลดปล่อยทุกอย่างออกมาเลอะหน้าท้องสีแทน ซึ่งสายน้ำก็ช่วยชะล้างความน่าอายนั้นออกไปอย่างรวดเร็ว
เซฮุนหอบหายใจถี่รัว แรงกระแทกที่สะโพกยังคงไม่เบาลง กลับกันมันยังเร่งความเร็วขึ้นต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ เขาแตะมือบางลงบนใบหน้าคิมจงอิน หย่อนขาตัวเองลงแตะพื้นจนส่วนเชื่อมต่อของเราหลุดออกจากกัน
“เดี๋ยวปวดแขน” คนตัวขาวเอ่ย ลูบไล้นิ้วเรียวไปตามสันกรามคม “หันหลังให้แล้วกันนะ”
คิมจงอินสอดใส่เข้ามาอีกครั้ง แค่เพียงรวดเดียวมันก็เข้ามาจนสุด เล่นเอาร่างบางถึงกับสะดุ้ง จิกมือลงกับกำแพงแน่น ห่อปากสูดลมหายใจเข้าอย่างหนักหน่วง สลับกับการร้องครางอื้ออึงเรียกชื่อคนผิวแทนที่กำลังเป็นเจ้าของร่างกายเขาอยุ่ในตอนนี้
เขาได้คำตอบแล้ว คิมจงอินตอนผมดำร้อนแรงเป็นบ้า ร้อนแรงเสียจนคนถูกกระทำกำลังจะหลอมละลายไปพร้อมกับสายน้ำที่เปิดให้รินรดผิวกายผ่านเสื้อยืดตัวบาง
จงอินแตะมือลงกับสะโพกเขาแผ่วเบา ยึดหน้าขาเขาเอาไว้แล้วดึงสวนกับแรงกระแทกของตัวเอง เรียกให้เสียงหวานหลุดออกมาจากริมฝีปากสีเชอรี่ที่เริ่มลากเพราะถูกน้ำนาน ถ้าพรุ่งนี้เขาป่วยขึ้นมาจะทำยังไงกัน คงจะไปซึมในรายการเพลงให้แฟนๆพากันเป็นห่วงอีกแน่ แล้วเขาก็คงไม่กล้าบอกหรอกว่าสาเหตุที่ทำให้ป่วยน่ะมันลามกขนาดไหน
“อา เซฮุนนา...วันนี้น่ารักจัง”
“บ้าไปแล้วเหรอ”
เซฮุนเอ่ยถึงแม้ว่าจะพูดไม่รู้เรื่อง ลำตัวเขาสั่นคลอนไปตามแรงกระแทกและแรงดึงจากมือหนา เรียวขาสองข้างสั่นทั้งจากความกระสันต์และความหนาวเหน็บ
“คราวหน้าที่ห้องครัวดีไหม?”
โอเซฮุนถึงกับถลึงตา หันไปหน้ากลับไปมองคิมจงอินที่ยืนยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์อยู่
“นี่แผนนายใช่ไหม?”
“ชู่ว ดังเกิดไป อา..อย่าขยับมากสิ มันแน่น”
“คิมจงอิน! อ๊า”
เซฮุนนิ่วหน้าเมื่อคนผิวแทนแกล้งด้วยการสวนเข้ามาสุดแรง เล่นเอาต้องรีบหันกลับไปคว้ากำแพงไว้เหมือนเดิมไม่ให้ทรุดลงไปกับพื้น
“หรือระเบียงดี...” เสียงทุ้มเอ่ยเย้ายวน แต่เขาทำได้เพียงแค่กัดปากแน่นอยู่กับอารมณ์ที่ปะทุขึ้นมาอีกครั้งเพราะคิมจงอินแกล้งกดย้ำลงมาที่จุดๆนั้น “อา...แต่แบบนั้นไม่ดีแน่ ฉันหวง”
“อือ...เบา...หน่อย”
“แต่วันนี้...น่ารักจริงๆนะเซฮุนนา...”
-
“เดินเร็วๆหน่อยสิเซฮุน”
คนตัวขาวเงยหน้าขึ้นพยักใส่พี่จงแดที่หันมาเร่งให้พวกเขารีบเข้าไปในสตูดิโออัด แฟนคลับมารออยู่เป็นจำนวนมากและส่งเสียงเชียร์ทันทีที่พี่แบคฮยอนเดินขึ้นไปเป็นคนแรก ถึงจะตอบรับคำพี่จงแด แต่เขาทำแบบนั้นไม่ไหวหรอก ก็มันเจ็บจนร้าวไปหมด ขยับหนึ่งทีก็เจ็บขึ้นมาจนถึงหน้าท้องแล้ว
คิมจงอินเกือบฆ่าเขาตายเมื่อคืน เราไม่ได้หยุดแค่รอบหรือสองรอบเหมือนทุกครั้ง แต่หมอนั่นเจ้าเล่ห์ไปจนถึงตอนที่เขานุ่งผ้าเช็ดตัวจะกลับห้อง แต่ก็ยังลากไปที่โซฟากลางหอ ส่งเสียงออดอ้อนมาว่าให้ออนท็อปให้หน่อยอีกต่างหาก
เขาอายจนต้องมุดโซฟาอยู่ตลอดเวลา แถมยังกลัวว่าพวกพี่ๆจะเปิดประตูพรวดพราดออกมาเห็นอีกต่างหาก แต่สุดท้ายก้พ่ายแพ้เสียงอ่อนหวานที่เอาแต่พร่ำเรียกที่รักซ้ำๆ
ผมสีดำของคิมจงอินไม่ได้โดดเด่นเหมือนกับผมบลอนด์ แต่มันหลับกลายเป็นเหมือนหลุมดำที่ดูดทุกสิ่งทุกอย่างเข้าหาตัว ดึงดูดทุกสายตา รวมถึงดูดจิตวิญญาณของเขาเข้าไปด้วย ยิ่งตอนที่เราซ้อมเต้นในห้องแต่งตัวเมื่อเช้า ยามที่เส้นผมพลิ้วไหวไปมารวมไปถึงตอนที่มือหนาเสยขึ้นอย่างเป็นธรรมชาตินั่นน่ะมันสุดยอดจริงๆ
พวกเราเดินขึ้นไปบนเวที ยืนเล่นกันอยู่แบบนั้นเพื่อให้ทางโปรดิวเซอร์เตรียมกล้องให้พร้อม จนสุดท้ายเขาก็พลาดจนได้ เพราะดันมีแฟนคลับตะโกนขึ้นมาจากด้านล่าง ถามว่าทำไมหน้าของเขาถึงซีดเซียว เรียกให้พี่ทุกคนหันมามองมักเน่อย่างเขาเป็นตาเดียว
“อา...เมื่อคืนผมนอนดึกน่ะครับ”
เซฮุนตอบอย่างสุภาพ ส่งยิ้มลงไปเพื่อให้ทุกคนสบายใจ เหล้าเอลี่ส่งเสียงกลับมาอย่างเป็นห่วง เขาจึงส่งมือรูปหัวใจกลับไปเพื่อให้ทุกคนสบายใจ ก่อนผละหนีออกมาจากตรงนั้นเพื่อไม่ให้ความจริงรั่วไหลว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่
พี่แบคฮยอนเรียกให้พวกเราเดินเข้าไปหาเพราะอยากซ้อมตอนที่จงอินปีนขึ้นบนเข่า แน่นอนว่าเซฮุนก็ไม่อยากขัดให้เป็นที่น่าสงสัย ถึงจะเจ็บสะโพกแค่ไหนก็ต้องกัดฟันเต้นต่อไป
แน่นอนว่าตัวปัญหาอย่างคิมจงอินก็ยังป้วนเปี้ยนอยู่แถวนั้น จนในที่สุดเจ้าตัวก็เดินมาเพราะเป็นตัวหลักที่ต้องขึ้นไปยืนบนเข่า โอเซฮุนแบมือให้อีกฝ่ายจับ แต่กลับกลายเป็นว่าคนผิวแทนเดินเข้ามาเอาอกประชิดหลังเขาแทน พร้อมกับปล่อยคำพูดชวนขนลุกออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
“คืนนี้ย้อมผมสีอะไรดี...ถึงจะได้แบบเมื่อคืน”
เขาถึงได้รู้ ว่าพลาดท่าให้กับเซนเตอร์ของวงเข้าให้แล้ว แถมยังพลาดอีกเรื่อง เพราะหลังจากที่คิมจงอินกระซิบแล้วเดินออกไป พี่แบคฮยอนก็เดินเข้ามาใกล้ แกล้งหยิกเอวเขาเบาๆพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่พอจะได้ยินกันสองคน
"เมื่อคืนทำไมรุนแรงกันจัง ได้ยินแล้วตกใจเลยเนี่ย"
100%
อย่าตกใจ
มันกลั่นกรองออกมาจากความโมโหการประปา การไฟฟ้า รุ่นพี่ โมโหแม้กระทั่งว่าแบตโน้ตบุ้คเหลือ 8%แต่ก็ยังคงแต่งจนจบ
รู้สึกว่าเรทและเป็นncที่ยาวที่สุดที่เคยแต่งมา (หรือเปล่า ฮ่าบวก) เพราะความโมโหล้วนๆ
เอาอันนี้ไปก่อน หายโมโหแล้วเดี๋ยวปั่น cactus ให้นะคะ
ฮึ่ย~~~